นักวิเคราะห์ด้านการเงินและนัก podcast นาย Preston Pysh ได้ออกมาทำนายว่าราคา Bitcoin นั้นอาจจะพุ่งขึ้นสูงกว่าคำทำนายที่โมเดล stock to flow เคยทำนายไว้
โดยอ้างอิงจากการทวีตล่าสุดของเขานั้น นาย Pysh ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงโอกาสความเป็นไปได้ของขาขึ้นของราคา Bitcoin โดยกล่าวว่าราคาของมันนั้นอาจจะวิ่งไปได้ไกลกว่าโมเดล stock-to-flow (S2F) ของ PlanB เคยทำนายไว้เสียอีก
โมเดลดังกล่าวนั้นเคยวิเคราะห์ว่าราคา Bitcoin นั้นอาจพุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์ภายในเดือนธันวาคมปี 2021 (แต่หากมันไม่เป็นเช่นนั้น มันก็จะล้มเหลว)
รอขายที่จุดสูงสุด
ยาย Pysh ยอมรับว่าเขานั้นตื่นเต้นมากที่เทรนด์ของราคา Bitcoin กำลังจะวิ่งกลับไปยังจุดสูงสุดที่มันเคยทำไว้เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปี 2017 ที่ผ่านมา เมื่อราคาของ Bitcoin นั้นได้พุ่งแตะ 18,000 ดอลลาร์ ซึ่งระดับราคาดังกล่าวถือเป็นจุดเกือบสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ทำให้ผู้คนในวงการหลาย ๆ คนต้องแห่กันเข้ามาในตลาดด้วยความบ้าคลั่งจนส่งผลทำให้เครือข่ายของ Bitcoin ต้องติดขัด และบางคนถึงกับต้องยอมจ่ายค่าธรรมเนียมที่ราว ๆ 50 ดอลลาร์ต่อธุรกรรมเลยทีเดียว
ภายหลังจากที่ราคาของ Bitcoin นั้นร่วงไปจุดต่ำสุดที่ 3,100 ดอลลาร์เมื่อเดือนธันวาคมปี 2019 นั้น นาย Pysh เผยว่าเขาก็เริ่มซื้อสะสมมันเรื่อย ๆ โดยระดับราคาของเหรียญที่เขาซื้อมาได้นั้นอยู่ที่ไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์ นอกจากนั้นเขายังมี strikes ของสัญญา Bitcoin options ที่แทงข้าง call ไปที่ราคา 10,000 ดอลลาร์ และจะหมดอายุในเดือนมิถุนายนปี 2021 นี้อีกด้วย
เป้าหมายที่ 300,000 ดอลลาร์
ในวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ได้ร่วงแตะ 8,800 ดอลลาร์หลังจากที่มีการโอนเหรียญ Bitcoin ที่คาดว่าน่าจะเป็นของซาโตชิขึ้น
แม้ว่าราคาจะมีความผันผวนด้านลงในเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่นาย Pysh ก็ยังคงมองว่าตลาดนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้นต่อ
หลัก ๆ นั้นเป็นเพราะว่าตัวแปรด้านเศรษฐกิจระดับมหภาค ที่เขาคาดว่าราคา Bitcoin นั้นอาจจะพุ่งสูงกว่าระดับที่โมเดล S2F เคยคาดการณ์ไว้ และไม่สามารถเป็นไปได้ในเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่านาย Preston Pysh นั้นเคยออกมากล่าวไปแล้วครั้งหนึ่งว่าราคาของ Bitcoin นั้นกำลังวิ่งไปที่ระดับ 300,000 ดอลลาร์ในช่วงยุคการจ่ายรางวัลที่ 4 ของ Bitcoin นี้อีกด้วย
“ผมจะบอกคุณว่าผมคิดว่าระดับต่อไปนั้นจะอยู่ที่ราคา 80,000 ดอลลาร์ถึง 100,000 ดอลลาร์ และมันจะต้องวิ่งไปถึงตัวเลขนั้นแน่ ๆ และมันจะต้องวิ่งไปถึง 200,000 ดอลลาร์หรือ 300,000 ดอลลาร์ได้อย่างแน่นอน”