ราคา Bitcoin นั้นได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากระดับ 3,700 ดอลลาร์ แล้ว ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นั้นจะอยู่ที่ 150% เลยทีเดียว
แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาดังกล่าวนั้นจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ รายในวงการคริปโตออกมาแสดงความเห็นว่าขาลงของตลาดนั้นได้จบลงแล้ว แต่ทว่าบางคนนั้นก็ยังมองต่าง ซึ่งหนึ่งในนักวิเคราะห์ดังกล่าวนั้นออกมาคาดการณ์ว่าราคาของ BTC นี้มีโอกาสที่จะร่วงลงไปทดสอบระดับ 3,000 ดอลลาร์ได้
นอกจากนี้เขายังได้เผยถึงตัวแปรทางเทคนิคแบบง่าย ๆ รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะเลวร้ายลงยิ่งกว่านี้อีกด้วย
ราคา Bitcoin อาจร่วงแตะ 3,000 ดอลลาร์
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ นักเทรดรายหนึ่งที่เคยออกมาทำนายว่าราคา Bitcoin จะร่วงแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์และราคา XRP จะร่วงแตะ 0.11 ดอลลาร์ ทว่าการวิเคราะห์ของเขานั้นได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เนื่องจากว่าในตอนช่วงต้นปีนั้นเราได้เห็นการทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี 2020 ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
ทว่าเมื่อเดือนมีนาคมมาถึง ราคาของ Bitcoin ก็ได้ร่วงลงไปแตะระดับ 3,700 ดอลลาร์อย่างรุนแรง รวมถึงราคา XRP ที่ร่วงหนักอีกด้วยเช่นกัน ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า
แม้ว่าตลาด Bitcoin นั้นจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้มากแล้ว แต่นักวิเคราะห์ดังกล่าวนั้นก็ยังคาดการณ์ว่าราคาของ BTC อาจร่วงลงไปต่ำมากกว่านี้ โดยมันมีโอกาสร่วงลงไปถึง 2,000 และ 1,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว
นอกจากนี้แนวคิดที่ว่าตลาด Bitcoin อาจร่วงต่ออย่างรุนแรงนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากนาย Ross Ulbricht หรือนักโทษผู้เคยก่อคดีค้ายาเสพย์ติดผ่าน darkweb และตอนนี้ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต
เขาได้พิมพ์กล่าวใน Medium ของเขาโดยมีชื่อว่า “Bitcoin by Ross #9: A Strong Signal for Lower Prices” โดยหากลองดูแล้วนั้นมันเป็นงานวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีการใช้เทคนิค Elliot Wave เข้ามาวิเคราะห์ โดยชี้ว่าราคา Bitcoin นั้นกำลังอยู่ในช่วงที่สองของตลาดขาลงที่ยาวนานนี้อยู่
Elliot Wave นั้นถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้หาความน่าจะเป็นว่าตลาดนั้นจะเคลื่อนที่ไปตรงจุดไหนต่อ โดยใช้จิตวิทยาของนักลงทุนในตลาด
นาย Ulbricht ผู้ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักเทรดคริปโตในยุคบุกเบิกนั้ได้ออกมาคาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin อาจร่วงลงไปเหลือแค่ 2,000 ดอลลาร์ หรือแค่ 1,000 ดอลลาร์ภายในเดือนมิถุนายน หรือกรกฎาคมเลยด้วยซ้ำ และจะต่อเนื่องไปจนกระทั่งถึงปี 2021
การพุ่งขึ้นของราคารอบต่อไปจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม
แม้ว่าจะมีความเห็นของนักวิเคราะห์ที่ออกมากล่าวว่าตลาดนั้นจะร่วงลงอย่างรุนแรงนั้น แต่ทว่าทั้งสองก็เชื่อว่าหากตลาดผ่านช่วงดังกล่าวไปได้ ขาขึ้นครั้งต่อไปนั้นก็จะรุนแรงอย่างมาก
โดยนาย Ulbricht กล่าวว่าเพดานราคาของ Bitcoin ในอนาคตนั้นก็คือท้องฟ้าเลยทีเดียว
“ผมยังคงมองว่ามันจะเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรงในระยะยาว ซึ่งในระยะยาวนั้น เพดานราคาก็คือท้องฟ้าไงล่ะ ซึ่ง wave 2 ที่ยังเหลืออยู่และจุดเริ่มต้นของ wave 3 นั้นจะมีการผันผวนของราคาอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนั้นตลอดในช่วงของ wave 3 ซึ่งก็คือหลายสิบปีหลังจากนี้ ราคาเหรียญที่อยู่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์นั้นจะถูกมองว่าถูกมาก”
นอกจากนี้มันยังมีปัจจัยด้านพื้นฐานที่นักวิเคราะห์มองว่ามันจะส่งผลด้านบวกอีกด้วย
นาย Tuur Demeester หรือผู้ก่อตั้งบริษัท Adamant Capital ได้ออกมาอธิบายว่าการพิมพ์เงินของรัฐบาลอย่างไม่หยุดหย่อนนั้นอาจทำให้ราคา Bitcoin ที่ 55,000 ดอลลาร์นั้นมีความเป็นไปได้
แนวคิดดังกล่าวนั้นก็ค่อนข้างง่าย กล่าวคือหากมันมีเงินสดหมุนเวียนอยู่ในตลาดมากเท่าไร มูลค่าของมันก็ลดลงเท่านั้น และอาจส่งผลทำให้มูลค่าของ Bitcoin สูงขึ้นสวนทาง เนื่องจากว่าความหายากของมันที่มีมากกว่า