<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

16 เคล็ดลับในการป้องกันเหรียญ Cryptocurrency ของคุณจากการถูกแฮ็กที่ดีที่สุดในปี 2020

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เนื่องด้วยความจริงที่ว่า cryptocurrency นั่นไม่มีอำนาจจากส่วนกลางมารับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยของเงิน ดังนั้นคุณจึงตกอยู่ในความเสี่ยงสำหรับอันตรายมากมาย :

  • กระเป๋าเงินวอเล็ทของคุณอาจจะถูกแฮก
  • PC ของคุณอาจติดไวรัสที่ออกแบบมาเพื่อขโมย bitcoin ของคุณ
  • คุณอาจจะพลาดกรอกหมายเลขกระเป๋าเงินของผู้รับผิดและโอนเงินไปในกระเป๋าที่ไม่รู้จัก ซึ่งคุณไม่มีโอกาสที่จะได้รับมันกลับคืน
  • คุณอาจลืม Backup กระเป๋าเงิน Hardware wallet และคุณก็อาจทำมันพังโดยไม่ตั้งใจและสูญเสียเงินคริปโตของคุณไปทั้งหมด

เริ่มกลัวแล้วใช่ไหม ด้วยความกลัวเราจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องคุณและช่วยให้คุณเตรียมพร้อมล่วงหน้าสำหรับการปกป้องสกุลเงินคริปโตของคุณ และมันไม่ใช่เรื่องยากหากคุณรู้ว่าจะควรเริ่มจากตรงไหน ในบทความนี้เราจะแบ่งปันเคล็ดลับโดยละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้เพื่อปกป้อง bitcoin ที่มีค่าของคุณ

เคล็ดลับ # 1 เพิ่มความปลอดภัย 2 ชั้น ด้วยการใช้ 2FA

การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนจะช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยชั้นที่สองให้กับบัญชีของคุณ เมื่อเปิดใช้งานคุณจะต้องพิมพ์รหัสผ่าน 6 หลักที่มีแต่คุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงมันได้ โดยรหัสผ่านเหล่านี้จะเปลี่ยนไปในทุก ๆ 30 วินาที ซึ่งทำให้แฮกเกอร์ไม่มีโอกาสบุกรุกเข้ามาในบัญชีของคุณได้ด้วยวิธีการสุ่มตัวเลข

อย่างไรก็ตามอย่าคิดว่า 2FA นั่นเป็นเครื่องมือวิเศษที่รับประกันความปลอดภัยของเงินทุนของคุณได้ 100% เพราะหากคุณไม่มีการ Backup ข้อมูลไว้ล่ะก็ คุณจะไม่สามารถเข้าสู่บัญชีของคุณได้อีกเลย แม้ว่าคุณจะสามารถติดต่อไปยังฝ่ายSupport เพื่อลบ 2FA เหล่านั้นได้ก็ตาม มันก็ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากอยู่ดี

เคล็ดลับ # 2 ติดตามธุรกรรมกระเป๋าเงินวอเล็ทของคุณเพื่อดูกิจกรรมที่น่าสงสัย

การตั้งค่าเครื่องมือติดตามธุรกรรมอย่างเช่น ‘Distill’ บน public address ในกระเป๋าเงินวอเล็ทของคุณ มันจะช่วยแจ้งให้คุณทราบได้ทันที หากมีธุรกรรมที่น่าสงสัยเกิดขึ้น เครื่องมือดังกล่าวนี้เป็นส่วนเสริมที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย

หากคุณมีเหรียญและโทเค็นต่าง ๆ อยู่มากมายและไม่ได้การทำธุรกรรมเป็นรายวัน เครื่องมือนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในการแจ้งเตือนไปทางอีเมล์ , SMS หรือ Slack เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในกระเป๋าเงินของคุณ โดยเครื่องมือดังกล่าวจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าเงินของคุณยังคงปลอดภัย

เคล็ดลับ # 3 กระจายเงินคริปโตของคุณไว้อยู่ในกระเป๋าเงินหลาย ๆ ใบ

สำหรับนักลงทุนอย่างเรา ๆ ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการไม่ใส่ไข่ทั้งหมดของคุณลงไปในตะกร้าใบเดียว มันจะช่วยให้ไข่ของคุณไม่สูญหายไปทั้งหมด ดังนั้นหากเงินของคุณถูกขโมยไปจากหนึ่งในตะกร้าเหล่านี้ ขนหน้าแข้งของคุณก็จะยังคงเหลืออยู่

มันอาจเป็นเรื่องดีที่คุณจะซื้อ Cold wallet ไว้หลาย ๆ ใบเพื่อเก็บไข่ของคุณ เพราะปัจจุบันมันมีราคาถูกและมีหลากหลายแบรนด์ให้คุณเลือก 

เคล็ดลับ # 4 ลบซอฟต์แวร์การเข้าถึงระยะไกลทั้งหมด

โปรแกรมเช่น Zoom , TeamViewer หรือ Ammyy Admin นั่นมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอยู่มากมาย และโปรแกรมเหล่านี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของคุณได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเก็บ Private key ไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณควรต้องรีบลบซอฟต์แวร์เหล่านั้นออกไปอย่างเร่งด่วน

เคล็ดลับ # 5 ใช้ “seed phrase” เพื่อจัดเก็บข้อมูลสำรอง

คุณควร Backup ข้อมูลการกู้คืนกระเป๋าเงินของคุณอยู่เสมอและเก็บมันไว้ในที่ปลอดภัย เผื่อวันหนึ่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นคุณจะได้รับมือกับมันได้ทัน

โดยปกติแล้วรหัสการกู้คืนกระเป๋าเงินหรือที่เราเรียกว่า ‘seed phrase’ นั่นจะมีความยาวอยู่ที่ 12 หรือ 24 คำและไม่ซ้ำกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะจำวลีเหล่านั้นได้ทั้งหมดเว้นแต่ว่าคุณจะมีความทรงจำที่เป็นเลิศ เพราะฉะนั้นแล้วคุณก็ควรจดบันทึกและทำสำเนาไว้หลาย ๆ ชุดเพื่อเก็บ seed phrase ไว้ในที่ต่าง ๆ 

เคล็ดลับ # 6 ลดความเสี่ยงด้วยการใช้ระบบปฏิบัติการ Linux

ระบบ Linux นั่นมีความปลอดภัยที่มากกว่า Windows เนื่องจากการติดตั้ง Software ส่วนใหญ่ถูกเรียกใช้โดยคำสั่ง COMMAND ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่ทำให้แฮกเกอร์หมดความพยายามที่จะดำเนินการในระบบปฏิการดังกล่าว

กลับกันในการติดตั้งซอฟต์แวร์บน Windows ผู้ใช้มักจะดาวน์โหลดไฟล์ที่อาจติดไวรัส เว้นแต่คุณจะดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวจากผู้ให้บริการโดยตรง และคุณไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าไฟล์นั้นจะไม่มีไวรัสติดมา

ดังนั้นหากคุณไม่เคยใช้ Linux มาก่อน คุณสามารถทดลองใช้ Linux ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและใช้งานง่ายอย่างเช่น Ubuntu และหากคุณกำลังมองหาระบบปฏิบัติการที่ปลอดภัยที่สุดในโลกตอนนี้ให้คุณลองศึกษาระบบปฏิบัติการ Qube

เคล็ดลับ # 7 ปิดการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับกระเป๋าเงินวอเล็ทของคุณ

ปกติแล้วกระเป๋าเงิน Crypto wallet จะได้รับการอัพเดตอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อพัฒนาการป้องกันภัยคุกคามให้เป็นล่าสุดอยู่เสมอ แต่ความผิดพลาดในการอัปเดตกระเป๋าเงินนั่นอาจทำให้เงินคริปโตของคุณสุญหายไปทั้งหมด ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่คุณควรตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนอัพเดตกระเป๋าเงิน

อย่างไรก็ตามคุณอย่าเพิ่งใจร้อนอัพเดตกระเป๋าเงินเวอร์ชันใหม่ในทันทีที่มันพร้อมใช้งานและควรปิดการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะบางครั้งเวอร์ชันใหม่จะเปิดตัวมาพร้อมกับข้อบกพร่อง ซึ่งจะมีการแก้ไขทันที หลังจากที่มีความคิดเห็นด่าทอปรากฏขึ้นเป็นจำนวนมาก คุณควรรอให้แน่ใจก่อนว่ามันจะไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้น จากนั้นคุณค่อยทำการอัปเดตมัน

เคล็ดลับ # 8 จำสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ

1. แบ่งปันสิทธิ์การเข้าถึงกองทุนของคุณให้กับบุคคลอื่น ๆ ที่คุณเชื่อถือได้อย่างน้อยหนึ่งคน

โดยเมื่อไม่นานมานี้ชุมชนคริปโตได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับการเสียชีวิตของผู้ก่อตั้ง QuadrigaCX และนักลงทุนได้สูญเสียเงินลงทุนของพวกเขาไปทั้งหมด (มูลค่าเกือบ 200 ล้านดอลลาร์) เนื่องจากเขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินเหล่านั้นได้ 

2. ตรวจสอบการทำธุรกรรมอย่างน้อย 3 ครั้ง

คุณควรจำไว้เสมอว่าการทำธุรกรรมคริปโตนั้นไม่สามารถย้อนกลับได้และหากคุณหมายเลขกระเป๋าเงินของผู้รับผิด มันอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทั้งหมด ดังนั้นคุณควรเช็คหมายเลข 3 ตัวหน้าและ 3 ตัวหลังอย่างน้อย 3 รอบจนกว่าคุณจะมั่นใจแล้วจริง ๆ ถึงค่อยเริ่มทำธุรกรรม

3. ปิดปากของคุณ

อย่าแชร์ข้อมูลคุณในที่สาธารณะ  ดังคำสุภาษิตที่ว่าประตูมีหู หน้าต่างมีช่อง ความอิจฉานั่นอยู่รอบ ๆ ตัวเราและการเปิดกว้างเช่นนี้อาจจบลงด้วยสิ่งที่เลวร้าย ซึ่งมันเป็นการดีกว่าในการเลือกที่จะไม่ดึงดูดความสนใจของทุกคนที่มีต่อความมั่งคั่งของคุณ

4. ตรวจสอบ URL ของเว็ปเทรดเสมอก่อนที่คุณจะเข้าสู่ระบบ

ปัจจุบันมีมีเว็บไซต์ฟิชชิ่งอยู่เป็นจำนวนมากที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลและรหัสผ่านของคุณ โดยทั่วไปแล้วพวกมันถูกออกแบบมาให้มีชื่อเหมือนกับแพลตฟอร์มของเว็ปเทรดที่มีชื่อดัง ยกตัวอย่างเช่น bilttrex หรือ binanse และเว็ปฟิชเชอร์อื่น ๆ ได้รับการออกแบบให้มีชื่อเหมือนกับกระเป๋าเงินบนเบราว์เซอร์อย่างเช่น Metamask 

ดังนั้นอย่าตกหลุมพลาง พิมพ์ที่อยู่ขอเว็ปเทรดด้วยตัวคุณเองในเว็ปเบราว์เซอร์อยู่เสมอ

5. ระวัง WiFi สาธารณะ

WiFi สาธารณะ นั้นอันตรายมากเนื่องจากผู้เป็นเจ้าของ wifi เหล่านี้อาจตั้งกฎของตัวเองขึ้นมาซึ่งคุณไม่อาจรู้ตัวได้เลย ตัวอย่างเช่นพวกเขาอาจเปลี่ยนเส้นทางเว็ปเบราว์เซอร์ของคุณเชื่อมโยงไปยังเว็ปเทรดหรือกระเป๋าเงินคริปโต พวกเขาอาจรวบรวมข้อมูลที่คุณเข้าถึงบนสมาร์ทโฟน , แท็บเล็ต รวมถึงรหัสผ่าน

ดังนั้นหากคุณมีความจำเป็นที่ต้องเข้าถึงเงินทุนคริปโตของคุณจาก WiFi สาธารณะเราขอแนะนำให้คุณใช้เว็ปเบราว์เซอร์ที่มี VPN ในตัวเช่น Opera หรือการใช้ Turbo VPN

เคล็ดลับ # 9 ไม่มีโฆษณาไม่มีเว็ปฟิชชิงไม่มีมัลแวร์

แฮกเกอร์ส่วนใหญ่ใช้โฆษณาฟิชชิงที่ดึงดูดใจเพื่อให้ผู้ใช้กดคลิกและเมื่อผู้ใช้กดคลิกโฆษณา มันจะทำการติดตั้งมัลแวร์ในอุปกรณ์ของคุณ เนื่องจากเป็นการยากที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างโฆษณาที่ติดไวรัสและโฆษณาที่ปลอดภัย ดังนั้นเราจึงแนะนำให้คุณติดตั้งตัวบล็อคโฆษณาในเว็ปเบราว์เซอร์ของคุณ

เคล็ดลับ # 10 บล็อกเครื่องมือติดตามที่มองไม่เห็น

แฮกเกอร์คริปโตมักใช้โฆษณาแบบสอดแนมหรือเครื่องมือติดตามที่คุณมองไม่เห็นเพื่อติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณ 

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจากแฮ็กเกอร์ที่ลับ ๆ ล่อ ๆ เราแนะนำให้คุณดาวน์โหลดส่วนเสริมที่มีชื่อว่า ‘Privacy Badger extension’ ในเว็ปเบราว์เซอร์ของคุณ Chrome / Firefox / Opera

เครื่องมือนี้จะช่วยบล็อกโฆษณาและคุกกี้ติดตามในเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ใช้งาน และเมื่อคุณเข้าเยี่ยมชมเว็ปไซต์ใด ๆ มันจะแจ้งคำเตือนและบล็อกตัวติดตามเหล่านั้นทันที

เคล็ดลับ # 11  Email ที่ปลอดภัยสำหรับคริปโต – ProtonMail

ในขณะที่นักเทรดคริปโตส่วนใหญ่มักเลือกใช้บัญชีอีเมลของ Google หรือ Yahoo เพื่อเทรดเงินคริปโตของพวกเขา แต่นั่นอาจยังไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด

ตามข้อกำหนดการให้บริการของ Gmail คุณจะต้องกดอนุญาตให้ Google สามารถอ่านอีเมลและติดตามกิจกรรมของคุณ แม้ว่าคุณจะออกจาก Gmail ไปแล้วก็ตาม การติดตามดังกล่าวนี้อาจทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงสูงที่จะถูกแฮ็ก

ดังนั้นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่านั่นคือการใช้ ProtonMail เพราะทาง ProtonMail จะไม่อ่านอีเมลหรือติดตามกิจกรรมใด ๆ ของคุณ

เคล็ดลับ # 12 เข้าชมเว็ปไซต์อย่างปลอดภัยด้วยส่วนขยายเหล่านี้

ฟิชชิงเป็นวิธีการทั่วไปที่ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าขโมยสกุลเงินดิจิทัลของคุณได้ โดยแฮกเกอร์จะสร้างหน้าเว็ปฟิชชิ่งที่สนใจเพื่อหลอกล่อให้คุณคลิกมัน และเมื่อคุณคลิกที่มันคุณจะส่งข้อมูลส่วนตัวของคุณไปให้กับแฮกเกอร์เพื่อใช้เข้าถึงบัญชีที่ละเอียดอ่อนของคุณ

เพื่อป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิง คุณอย่าคลิกเว็บไซต์ URL ที่ขึ้นต้นด้วย HTTP แทนที่จะเป็น HTTPS และหากเว็บไซต์นั่นดูแปลก ๆ คุณก็ไม่ควรคลิกเข้าไปในเว็บไซต์เหล่านั้น

นอกจากนั้นแล้วการติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้ลงในเว็ปเบราว์เซอร์ ยังช่วยให้คุณทราบด้วยว่าเว็บไซต์นั้นปลอดภัยหรือไม่ :

โดย HTTPS จะทำการสลับเปลี่ยนเว็ปไซต์จาก “http” ที่ไม่ปลอดภัยไปเป็น “https” ที่ปลอดภัยให้โดยอัตโนมัติ 

เคล็ดลับ # 13 รักษาความปลอดภัยและเข้ารหัสข้อมูลของคุณด้วย VPN

VPN จะช่วยปกป้องข้อมูลของคุณโดยใช้การเข้ารหัสระดับเดียวกับที่ทหารใช้กันและทำให้ติดตามได้ยากมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้อาจทำอินเทอร์เน็ตของคุณช้าลง

เคล็ดลับ # 14 การใช้เครื่องมือสร้างรหัสผ่านให้กับคุณ

หนึ่งในรหัสผ่านที่คนส่วนใหญ่ได้นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจุบันก็คือ “123456” และตามมาด้วย “password” เป็นอันดับที่สอง ซึ่งดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะช่วยทำให้แฮกเกอร์ทำงานได้ง่ายมากขึ้น

“รหัสผ่านเป็นเหมือนชุดชั้นใน : คุณไม่อยากให้คนอื่นเห็นคุณก็ควรเปลี่ยนบ่อย ๆ และคุณไม่ควรแบ่งปันมันให้กับคนแปลกหน้า” กล่าวโดยนาย Chris Pirillo

รหัสผ่านที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัยมากที่สุดมักจะประกอบด้วยตัวเลขและตัวอักษรผสมปน ๆ กัน

การใช้เครื่องมืออย่างเช่น LastPass และ KeePass นั่นจะช่วยให้คุณมีรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยากสำหรับกระเป๋าเงินและบัญชีอีเมลของคุณ

เคล็ดลับ # 15 ใช้คำสั่งควบคุมระยะไกลด้วย ‘kill switch’

แม้ว่าคริปโตเคอเรนซี่นั่นจะมีความปลอดภัยสูงและเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะถูกแฮกเว้นแต่ว่า Private key ของคุณจะถูกขโมย 

สิ่งนี้อาจนำไปสู่การสูญเสียอย่างมหาศาล แต่ถึงกระนั้นพวกเราส่วนใหญ่ละเลยที่จะใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันเงินดิจิทัลของเราในสถานการณ์เช่นนี้

ทางออกที่ง่ายที่สุดก็คือการเปิดใช้งาน ‘kill switch’ เพื่อเก็บข้อมูล crypto ของคุณหากมือถือของคุณนั่นถูกขโมย และเมื่อเปิดใช้งานแล้วก็สั่งให้ ‘kill switch’ ล้างข้อมูลทั้งหมดของคุณและล็อคโทรศัพท์ของคุณจากระยะไกล ด้วยเหตุนี้โจรจึงไม่สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินหรือข้อมูลใด ๆ บนมือถือของคุณได้อีกต่อไป

เคล็ดลับ # 16 ติดตามข่าวการพัฒนาและการหลอกลวงล่าสุด

การติดตามและการกรองข่าวสำคัญของคริปโตนั่นเป็นสิ่งสำคัญ แต่สำคัญมากที่สุดก็คือ คุณต้องคอยติดตามข่าวสารล่าสุดที่อาจส่งผลต่อกระเป๋าเงินวอเล็ทของคุณ

ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ทราบถึงเรื่องการโจมตีกระเป๋าเงิน Electrum wallet ในเดือนธันวาคม 2018 การโจมตีนั้นก็จะสามารถควบคุมได้ แม้ว่า Electrum ก็ตรวจพบช่องโหว่และประกาศข่าวการโจมตีนี้แล้ว แต่ผู้ใช้ก็ยังคงดาวน์โหลดกระเป๋าเงินปลอมอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ถูกขโมยเงินอีกกว่า 250 BTC นี่เป็นข้อเสียที่แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ติดตามข่าวอัพเดทล่าสุด

ดังนั้นการหมั่นติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอจึงมีความสำคัญมาก และการทำเช่นนี้จะช่วยให้กระเป๋าเงินวอเล็ทของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

สรุป

การรักษาเงินคริปโตของคุณให้มีความปลอดภัยนั่นอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยากในตอนแรก คุณอาจจะคิดว่าทำไมถึงมีอันตรายมากมายอยู่รอบตัวคุณและไม่มีตัวกลางที่น่าไว้ใจ

แต่ถ้าคุณมีความกระตือรือร้นในการใช้ระบบใหม่ที่แยกตัวออกมาจากโลกการเงินแบบดั้งเดิม คุณก็ควรเรียนรู้ที่จะปกป้องเงินออมของคุณเองและถึงแม้ว่าข้อควรระวังเหล่านี้อาจดูค่อนข้างซับซ้อนไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ในด้านเทคโนโลยี แต่คุณจะพบว่ามันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นเมื่อคุณทำสิ่งเหล่านี้ให้ติดเป็นนิสัย

ที่มา : distill.io