<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เหรียญ USDT เตรียมใช้ระบบของเหรียญฝีมือคนไทย OmiseGO เพื่อลดต้นทุน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหรียญ Stablecoin นาม Tether (USDT) ตอนนี้เปิดให้ซื้อขายกันแล้วที่บนเครือข่าย OMG ซึ่งเป็นเครือข่าย Plasma sidechain ที่กำลังเตรียมเปิดตัวในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ด้วยโปรเจคเดิมที่มีชื่อว่า OmiseGo

การรวมระบบเข้าด้วยกันในครั้งนี้ได้มีการประกาศไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ Tether ได้รวมกับ Ethereum sidechain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครือข่าย Tether เป็นหนึ่งในเหรียญ Stablecoin “ที่มีการใช้ค่า GAS” มากที่สุดในเครือข่าย ของ Ethereum โดยคิดเป็นประมาณ 8,900 ETH (หรือราว ๆ 1.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากค่าธรรมเนียมที่ใช้ไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ดังนั้นการแบ่งวอลลุ่มบางส่วนไปยังเครือข่าย OMG ทาง Tether ก็หวังว่าจะช่วยลดภาระให้กับเครือข่าย Ethereum ได้ นาย Paolo Ardoino CTO ของ Bitfinex กล่าวว่า “การโอนย้ายเหรียญ USDT ไปยังเครือข่าย OMG มันจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่าย  , ผลักดันการปรับปรุงประสิทธิภาพและลดแรงกดดันที่มีต่อเครือข่าย root chain”

เหรียญ Tether บนเครือข่าย OMG จะเปิดใช้งานเว็ปเทรด Bitfinex และ “ช่วยให้นักเทรดสามารถซื้อขายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” นาย Ardoino กล่าว แม้ว่าล่าสุดเครือข่ายจะมีการเปิดตัว แต่ก็ยังไม่มีสถานใดที่ยอมรับมัน นาย Stephen McNamara COO ของ OmiseGo ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า ตอนนี้บริษัทกำลังหารือกับทางเว็ปเทรดและผู้ให้บริการกระเป๋าเงินรายอื่น ๆ เพื่อรวมระบบเข้ากับ OMG 

การเปิดตัวพร้อมกันกับเทคโนโลยี Plasma

ในขณะที่พลาสมาได้รับการขนานนามว่าเป็นโซลูชันเลเยอร์แบบ 2 ชั้นที่ดีที่สุดในแง่ของการปรับขนาดเครือข่าย Ethereum แต่ที่สิ่งยังคงเป็นปัญหาก็คือ ความกระตือรือร้นของชุมชน Ethreum ที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้ Optimistic Rollup

ปัจจุบันเหลือแค่ OmiseGo และโปรเจคอื่น ๆ เพียงโปรเจคเดียวที่ใช้เทคโนโลยี Plasma เครือข่าย OMG ซึ่งเป็นการ rebrand ของทั้ง OmiseGo และบริษัทแม่ของ Omise ก็เตรียมที่จะเปิดตัว mainnet  เวอร์ชั่น beta ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ด้วยเช่นกัน

โปรเจคนี้จะใช้ consensus ของ“ Proof of Authority” โดยเอกสารระบุว่า Proof of Authority นี้จะมีการดำเนินการโดยองค์กรหรือหน่วยงานเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันสนับสนุน node ที่คอยช่วยตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม

อย่างไรก็ตามเครือข่ายจะยังคงอนุญาตให้เชื่อมต่อโดยตรงได้กับ ETH หรือโทเค็น ERC-20 และในขณะที่รายงานอยู่นี้เครือข่ายได้มีการปรับลดค่าธรรมเนียมลงกว่า 66% ซึ่งนี่กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับค่าธรรมเนียมของ Ethereum ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : cointelegraph