ภายหลังจากที่ราคาของ bitcoin ได้ร่วงลงมาจากระดับ 10,000 ดอลลาร์จนส่งผลทำให้นักลงทุนและนักเทรดหนังต้องขวัญผวา แม้กระทั่งล่าสุดนี้ราคาได้มีการไต่กับขึ้นไปที่ระดับ 9,400 ดอลลาร์ แต่มันก็ยังไม่สามารถวิ่งขึ้นไปที่ระดับ 5 หลักได้อยู่ดี เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อใดก็ตามราคาไม่สามารถวิ่งผ่านแนวต้านไปได้อารมณ์ของนักเทรดในตลาดก็จะย่ำแย่ลงตาม แต่กระนั้นข้อมูลล่าสุดเผยว่าตลาดขาลงอาจจะจบลงแล้วในเร็วๆนี้
กราฟราคา bitcoin เผยให้เห็นว่าแนวต้านที่เส้น 12-EMA และ 26-EMA ไม่สามารถที่จะพยุงราคาไว้ได้เป็นครั้งแรกหากนับตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะว่าโชคยังดีพี่ราคานั้นยังคงตัวอยู่บนเส้นขาขึ้นพี่วิ่งมาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมได้ เส้นเทรนไลน์ล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมยังคงแสดงให้เห็นว่าภาพรวมของตลาด bitcoin นั้นยังคงดูเป็นขาขึ้นอยู่
แม้ว่า Volume การซื้อขายในตลาดดันจะลดลงเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภาพรวมของมันดูย่ำแย่แต่อย่างใด ตัวแปรพื้นฐานบางตัวยังเผยให้เห็นว่าราคา bitcoin นั้นอาจกลายเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรงและวิ่งผ่าน 10,000 ดอลลาร์ไปได้ในเร็วๆนี้
ตัวแปรพื้นฐานจะช่วยพยุงราคา bitcoin ไว้ได้หรือไม่
โดยอ้างอิงจากสถิติล่าสุดของ Santiment พี่เผยว่าจำนวนตัวเลขของเจ้ามือ bitcoin นั้นกำลังพุ่งขึ้นสูงมาก โดยล่าสุดมีกระเป๋าเก็บเหรียญที่มีจำนวนตั้งแต่ 100 ถึง 1,000 BTC เพิ่มขึ้นมามากกว่า 70 กระเป๋าแล้ว หากนับตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา
อัตราการเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งสัญญาณบ่งบอกว่าผู้คนเป็นจำนวนมากต้องการที่จะถือเหรียญ bitcoin กันมากขึ้น นอกจากนี้อัตราการถือ long นั้นมีมากกว่า short บนเว็บกระดานซื้อขาย Future ชั้นนำส่วนใหญ่อีกด้วย
โดยเฉลี่ยแล้วมีการถือ long ประมาณ 82 เปอร์เซ็นต์หากเทียบกับการถือ short ที่อยู่ที่ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวสำหรับเหรียญ Ethereum งั้นดูเหมือนว่าจะสูงกว่าอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นบนเว็บ BitMEX มีการถือ long เหรียญ ETH 91.4 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ Short อยู่ที่ 8.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นอกจากนี้ตัวแปรด้านพื้นฐานอื่นๆสำหรับ bitcoin ก็ยังแสดงให้เห็นในด้านบวกอีกด้วย หนึ่งในนั้นก็คือการแห่ถอนเหรียญออกมาจากเว็บเทรดที่มีมากขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นการบ่งบอกว่าผู้คนกำลังหันมาถือเหรียญอยู่เฉยๆ
จากที่พวกเขาถือเหรียญอยู่เฉยๆแปลว่าพวกเขาไม่มีความประสงค์ที่จะขายมัน และนั่นก็จะทำให้ลดการเทขายอย่างรุนแรงในตลาด
ส่งผลทำให้หลายๆคนตั้งคำถามที่ตามมาก็คือว่าตัวแปรดังกล่าวจะทำให้ราคานั้นวิ่งทะลุ 10,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่