ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า บล็อกรางวัลสำหรับนักขุดได้ปรับลดลงจาก 12.5 Btc เหลือ 6.25 Btc หลังการ Halving สิ่งนี้ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับนักขุดที่มีอัตรากำไรต่ำ การ Halving เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยและราคา BTC ก็ร่วงลงอย่างรวดเร็วในวันที่ 12 มีนาคม แม้ว่าล่าสุดจะมีความผันผวนของราคา Bitcoin เกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น Grayscale ก็ยังคงทำการเข้าซื้อ Bitcoin ในอัตราที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
Grayscale เป็นกองทุนเพื่อการลงทุนที่ได้รับการอนุมัติจาก FINRA โดยก่อนที่ตลาดคริปโตจะล่มสลายลงในวันที่ 12 มีนาคม Grayscale ได้ถือ BTC อยู่กว่า 300,000 btc และหลังจาก Halving จบลง พวกเขาก็ได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีกกว่า 19,000 bitcoin และตอนนี้ราคาของ Bitcoin ก็ได้ฟื้นตัวกลับขึ้นอีกครั้งและกลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2020
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสองคน
ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมแข่งขันสองคนในตลาดของ bitcoin (กองทุนเฮดจ์ฟันด์ , วาฬ bitcoin) คือนักเทรดรายย่อยบนเว็ปเทรดฟิวเจอร์เช่น CME, BitMEX, FTX และอื่น ๆ ส่วนกลุ่มที่สองนั้นจะประกอบไปด้วยจุดประมวลผลชำระเงิน BTC อย่างเช่น Square SQ Cash, Coinbase และ Grayscale
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Square’s Cash เพิ่งได้เปิดตัวฟีเจอร์การซื้อ bitcoin แบบอัตโนมัติบนแอพของพวกเขา นอกจากนี้ Bitmain ยังได้นำแนวคิดทางการเงินแบบดั้งเดิมมาใช้ เช่น การลงทุนด้วย 2 สกุลเงิน พร้อมกับการเปิดตัวตลาด bitcoin และ ethereum อีกทั้งยังมี Dip Hunter ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ซื้อ bitcoin แบบอัตโนมัติ ณ ราคาที่ต่ำที่สุด
หนึ่งในการพัฒนาที่เห็นเด่นชัดที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมเลยก็คือ การเคลื่อนไหวของราคา BTC เมื่อเทียบกับสัญญาฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดีต่อสุขภาพของ bitcoin ยกตัวอย่างเช่น การ Liquidate สัญญาฟิวเจอร์ครั้งใหญ่บนกระดานเทรด BitMEX ในวันที่ 12 มีนาคม สิ่งนี้ได้ส่งผลทำให้ราคาของ bitcoin ร่วงลดลงต่ำกว่าระดับ $ 4,000
การถอนเงินจำนวนมหาศาลในวันที่ 12 มีนาคมทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตจำนวนมากถือกำเนิดขึ้น ซึ่งเราจะเห็นได้จากอัตราดอกเบี้ยติดลบที่เพิ่มขึ้นสำหรับการซื้อขายสัญญา Swap แบบไม่มีวันหมดอายุ ซึ่งหมายความว่าการ Short Btc จะมีราคาแพงมากกว่าการ Long Btc
ภาคการขุดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นักขุดยอมแพ้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อนักขุดที่มีอุปกรณ์การขุดเก่าล้าสมัยเริ่มถอดปลั้ก , ยอมแพ้ และออกจากตลาดไป การกระทำเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin ในเชิงลบ เนื่องจากนักขุดจะเทขายเหรียญของพวกเขาเพื่อให้กิจการสามารถดำเนินงานต่อไปได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ BlockWare Solutions ได้จัดทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาของนักขุดและเหตุผลว่าทำไมมันถึงจะนำไปสู่ภาคการขุดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของราคาในระยะยาวของ bitcoin
ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ “เกลียวมรณะ” ทฤษฎีนี้ถูกค้นพบในความคิดที่ว่าภาคอุตสาหกรรมการขุดไม่ได้มีการเตรียมรับมือสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปี นักขุดกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ Halving และมันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 12 มีนาคม เนื่องจากนักขุด Bitcoin หลายคนได้ยอมจำนนไปแล้วในช่วงสองเดือนก่อนที่จะเกิดการ Halving
อัตรา Hashrate โดยรวม (THR) ที่ได้รับการวิเคราะห์จาก CoinMetrics บ่งชี้ว่า เครื่องขุดรุ่นเก่าจำนวนมาก (เช่น Antminer S9) ถูกปิดการใช้งานลงหลังจากวันที่ 12 มีนาคม แต่พบว่าบางคนเลือกที่จะกลับมาเปิดใช้งานเครื่องขุดอีกครั้ง หลังจากที่ค่าความยากในการขุดลดลงและเมื่อราคาของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้น
การมาของ Grayscale และการยอมแพ้ของนักขุด
การยอมจำนนของนักขุด Bitcoin นั่นถือว่าเป็นการพัฒนา.oเชิงบวก เนื่องจากนักขุดที่แข็งแกร่งจะยังคงอยู่ในตลาดต่อไป สิ่งนี้นำไปสู่สัดส่วนที่น้อยลงของนักขุด Bitcoin ซึ่งช่วยลดแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับราคาของเหรียญ ราคาของ Bitcoin ได้ดีดตัวพุ่งขึ้นกว่า 250% นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม อุตสาหกรรมการขุดยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและผู้ขายในระยะสั้นก็ดูเหมือนว่าจะเก็บสะสม Btc เพื่อเก็งกำไรในระยะยาว
“ด้วยเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อเร็ว ๆ นี้การเฉลิมฉลองของ bitcoin ทำให้รางวัลบล็อกลดลงจาก 12.5 BTC ไปเป็น 6.25 BTC ความฝันของการขุดที่เป็นอิสระได้จบลงไปพร้อมกับ ICO” นาย Rui Shi CMO ของบริษัทเหมืองขุด BitDeer กล่าว “ในวันนี้นักขุด Bitcoin ได้ทำลายสถิติจุดสูงสุดใหม่ (Hashrate) และเป็นคู่แข่งกับ AMZN ของ Amazon”
ในระยะสั้นนักเทรดคริปโตบางรายคาดหวังว่าจะมีการยอมจำนนนักขุดเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง โดยที่นักขุดจะไม่เทขายเหรียญ bitcoin ของพวกเขา อย่างไรก็ตามแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น แต่ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะมีผลกระทบเล็กน้อยต่อราคาของ bitcoin เนื่องจากความต้องการ Btc ของสถาบันที่แข็งแกร่ง และสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ Greyscale ยังคงมีแนวโน้มที่จะซื้อ bitcoin ต่อไปในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ที่มา : forbes