บริษัทด้านการจัดอันดับระดับโลก Weiss Ratings ได้ออกมากล่าวว่าราคาของ bitcoin นั้นมีแนวโน้มที่จะพุ่งไปถึง 180,000 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20 เท่าจากระดับราคาดังกล่าว โดยพวกเขาทำนายว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้ในอีก 10 ปีที่จะถึงนี้ ซึ่งหมายความว่าราคาของ bitcoin อาจจะพุ่งไปที่ระดับดังกล่าวในปี 2030
คำถามที่ตามมาก็คือจะมีสิ่งใดสามารถการันตีได้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริง หรือว่าจะเป็นความต้องการของตลาด? โดยทาง Weiss ได้แสดงความเห็นว่าหากตลาด bitcoin สามารถกินส่วนแบ่งประมาณ 1 ใน 3 ของตลาดทองคำทั่วโลกได้ นั่นหมายความว่าจะมีบริษัทและธุรกิจอีกเป็นจำนวนมาก ที่หลั่งไหลเข้ามาในวงการดังกล่าวเผื่อเข้ามาลงทุนในเจ้าตัวสินทรัพย์ที่ว่านี้และมองมันเป็นเหมือนกับสินทรัพย์ปลอดภัยที่สามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงได้ เมื่อนั้นราคาของ bitcoin ก็จะพุ่งขึ้นไปสู่ระดับที่เขากล่าวไว้
อย่างไรก็ตามเป้าหมายราคาดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องมีสภาพตลาดที่มีความผันผวนน้อยลงกว่านี้ รวมถึงความต้องการในตัวของเหรียญที่เพิ่มขึ้นตาม และผู้คนจะต้องมองว่ามันเป็นตัวเก็บมูลค่าเหมือนกับทองคำ
แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวกีดขวางทำให้ราคาไม่ไปถึงจุดดังกล่าวก็คือการที่นักลงทุนส่วนใหญ่นั้นมีพฤติกรรมช้อนซื้อ bitcoin เมื่อตอนที่ราคาของมันร่วงลงเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ค่อนข้างชัดเจนถึงสาเหตุที่ทำไมราคา bitcoin ถึงไม่เพิ่มขึ้นเสียที
แม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้ามือ bitcoin จะมีเพิ่มขึ้นถึง 2% หลังจากการ halving ของ bitcoin แต่ราคานั้นก็ยังคงดูซบเซาอยู่ดี และสิ่งนี้ส่งผลเสียต่อเทรนด์ขาขึ้นในระยะยาว
แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการของนักลงทุนในการลงทุนท่ามกลางวิกฤตไวรัสโคโรนาลดลงแต่อย่างใด ซึ่งส่งผลให้เห็นว่านักลงทุนนั้นเริ่มที่จะไว้ใจ bitcoin ในการเป็นตัวเก็บมูลค่าแล้ว แม้ว่าราคาตลาดในปัจจุบันจะดูน่าเบื่อก็ตาม โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนของ bitcoin ภายในระยะเวลา 1 เดือนนั้นสามารถเอาชนะของทองคำได้ที่ 5.9 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ของทองคำนั้นลดลงไป 1% ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสที่ bitcoin จะได้รับสถานะสินทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนมากที่สุดในปี 2020 ที่สูงขึ้นอีกด้วย
ในขณะเดียวกันผู้ใช้งานเหรียญบางคนก็ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มค่าธรรมเนียมของ bitcoin ที่จะพุ่งสูงขึ้นหากราคาวิ่งไปถึงระดับดังกล่าว
ผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งกล่าวว่า “ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมของ bitcoin ที่ราคา 180,000 ดอลลาร์ต่อ BTC จะเป็นเท่าไหร่ 100 ดอลลาร์อย่างนั้นเหรอ” นอกจากนี้ผู้ใช้งานอีกรายหนึ่งก็ชี้ว่าโครงสร้างของ bitcoin ในเวลาดังกล่าวนั้นอาจส่งผลทำให้ค่าธรรมเนียมของมันนั้นสูงขึ้นอย่างมหาศาลและอาจจะใช้เวลาในการทำธุรกรรมที่มากถึง 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
หลักๆก็คือเขาต้องการที่จะสื่อว่ายิ่งความต้องการในตู้ bitcoin สูงขึ้นเท่าไหร่ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญด้าน bitcoin จากเกาหลีใต้นาย Ruben Somsen ได้เปิดหัวข้อถกเถียงในเรื่องดังกล่าวเมื่อปีที่ผ่านมาโดยกล่าวว่า
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจในบิทคอยมากขึ้น ค่าธรรมเนียมนั้นก็จะพุ่งสูงขึ้นตาม”
เราได้เห็นอัตราค่าธรรมเนียมของ bitcoin ที่แพงขึ้นมาแล้วตั้งแต่ปี 2019 โดยราคาค่าธรรมเนียมของมันนั้นพุ่งขึ้นมาจาก 0.5 ดอลลาร์ไปเป็น 1 ดอลลาร์และ 2 ดอลลาร์หลังจากที่ราคาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ตอนช่วงหลังจากการ halving อัตราค่าธรรมเนียมก็ได้พุ่งไปแตะ 6.65 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาเหลือ 0.56 ดอลลาร์ในภายหลัง
บางทีนี่อาจจะเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ทำให้เรายังไม่ได้เห็นราคา bitcoin ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่า 1 หมื่นดอลลาร์เสียที