Compound’s เป็นแพลตฟอร์ม DEFI ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมันได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แต่ในขณะเดียวกันมันก็ได้รับคำวิพากย์วิจารณ์จากชุมชนคริปโตในเชิงลบมากมายเช่นกัน โดยมีผู้คนบางส่วนเชื่อว่ามันอาจเป็น ‘ฟองสบู่คริปโต’ ตัวใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่มีการแจกจ่ายโทเค็น ราคาของเหรียญ COMP ก็มีมูลค่าพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับ $ 325 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและเปลี่ยนจากเหรียญคริปโต 100 อันดับแรกไปอยู่ในเหรียญคริปโตอันดับที่ 19 ได้สำเร็จ อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap
ราคาเหรียญ COMP พุ่งทยาน
ในแง่ของมูลค่าตลาดตอนนี้ บริษัทมีมูลค่ามากกว่าเหรียญ altcoin รุ่นเก่า ๆ หลายตัวเช่น NEO, Dash , Ethereum Classic และ IOTA. ผู้ให้บริการวิเคราะห์ Uniswap รายงานว่าตลาดนี้มีมูลค่าประมาณ 850 ล้านดอลลาร์ในขณะที่รายงาน
COMP มีวันซื้อขายที่ดีที่สุดในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีวอลุ่มซื้อขายมากกว่า 6 ล้านดอลลาร์ สิ่งนี้ได้ผลักดันสภาพคล่องให้เพิ่มขึ้นกว่า 2 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนได้แห่พากันไปที่แพลตฟอร์ม Compound DeFi เพื่อฝากสินทรัพย์คริปโตของพวกเขาเพื่อรับโทเค็น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่น่าจับตามอง
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วมีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยสูงถึง 12% จากการฝากเหรียญ USDT และได้รับเหรียญ COMP ตอบแทนบางส่วน ในเช้าวันจันทร์เหรียญ BAT กลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด โดยมีการจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 24% สำหรับเงินฝาก แม้แต่ผู้ถือครอง Bitcoin ก็ยังสามารถแปลง BTC ไปเป็น wrapped btc และทำการฝากหลักประกันเพื่อรับดอกเบี้ยสูงถึง 18% ต่อปีเช่นกัน
ในแง่ของมูลค่ารวมของเหรียญที่ถูกล็อคเอาไว้ ตอนนี้ Compound มีจำนวนมากกว่า 600 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงข้อมูลจาก DeFi Pulse ซึ่งคิดเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่า 500% นับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว Compound สามารถเอาชนะ MakerDAO ได้สำเร็จ ซึ่งกลายเป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่มากกว่า 40% ผู้เฝ้าสังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมบางรายตั้งข้อสังเกตว่าผู้ถือเหรียญ MKR เริ่มขายโทเค็นทิ้งและหันไปถือครองเหรียญ COMP แทนในปัจจุบัน
ยิ่งมีเหรียญคริปโตที่ถูกล็อคเป็นหลักประกันมากเท่าไหร่ โทเค็น COMP เหล่านั้นก็จะถูกกระจายออกไปมากเท่านั้น ซึ่งตอนนี้คิดเป็น 2,880 ที่ถูกแจกจ่ายออกไปต่อวัน โดยแบ่งออกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน ระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ อย่างไรก็ตามมีบางคนถามว่าทำไม Compound จึงไม่มอบรางวัลแก่ผู้ใช้บนแพลตฟอร์มก่อนที่จะเปิดตัวโทเค็น
“มันเป็นการดีกว่าที่จะดึงดูดผู้ใช้หน้าใหม่ให้เข้ามาที่นี่เพื่อทำฟาร์มระยะสั้นใช่ไหม ?”
Defi ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
DeFi ดูเหมือนจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แนวคิดของ liquidity mining ได้ถูกถอดออกไป และถูกแทนที่ด้วยความสำเร็จแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนของเหรียญ COMP สิ่งนี้ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ระบบนิเวศ DeFi ทั้งหมด ซึ่งเติบโตเร็วกว่าตลาดคริปโตส่วนใหญ่ทั้งหมด
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตโดยรวมยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 265,000,000,000 ดอลลาร์ แต่หากเปรียบเทียบกับตลาด DeFi มันเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดคริปโตถึง 17% และพุ่งแตะระดับสูงสุด ในแง่ของมูลค่ารวมถูกล็อคในทุกแพลตฟอร์ม
มูลค่ารวมที่ถูกล็อคใน DeFi นั้นสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 22% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์
Ethereum เป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับตลาดเหล่านี้และมี ETH จำนวน 3 ล้านเหรียญที่ถูกล็อคไว้ในสัญญา DeFi smart contracts หรือคิดเป็น 2.7% ของเหรียญ Ethereum ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบทั้งหมด แม้แต่แฟน ๆ Bitcoin ก็ได้กระโดดขึ้นรถไฟของ DeFi เช่นกับ เมื่อดูจากเหรียญ BTC ที่ถูกล็อคเอาไว้และลทำสถิติสูงสุดในรอบสัปดาห์นี้ที่ระดับ 6,800 btc (~ 64 ล้านดอลลาร์) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
DeFi เป็นฟองสบู่คริปโตหรือไม่ ?
นักเขียน Kyle S. Gibson [@KyleSGibson] ได้แสดงความคิดเห็นถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการพุ่งขึ้นของมูลค่าโปรเจค Defi ว่า :
“ฝูงชน DeFi ควรเพลิดเพลินกับอึก้อนนี้ ก่อนที่มันจะร่วงลงมาจากที่สูง”
เช่นเดียวกันนักเทรดฟิวเจอร์ชื่อดัง Cantering Clark [@CanteringClark] ที่ได้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ว่าโปรเจค DeFi นั่นไม่ยั่งยืน โดยเขากล่าวเสริมด้วยว่ามันจะกลายเป็นพื้นที่การเทรดที่มีผู้คนหนาแน่นและมีอยู่ทางออกเดียวเท่านั้น
มันมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีการเทขายเหรียญ COMP ครั้งใหญ่อย่างที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ได้กระโดดเข้าไปในแพลตฟอร์มเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและอยู่ในนั้นเพื่อผลประโยชน์ในระยะสั้น เมื่อพวกเขาได้รับผลกำไรเหล่านั้นแล้ว พวกเขาก็จะเริ่มเทขาย ซึ่งนั่นจะส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรุนแรง
นาย Nelson Ryan [@nelsonpryan] เจ้าหน้าที่ระดับ Senior ของ block Ventures สังเกตเห็นผลกระทบด้านอื่น ๆ เขากล่าวว่า นักเทรดดูเหมือนว่าจะกำลังทำการเก็งกำไรดยการให้กู้ยืมและยืมในช่วงเวลาเดียวกัน โทเค็นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอย่างเช่นเหรียญ BAT กำลังเพิ่มขึ้นจากวิธีนี้ เนื่องจากพวกเขาซื้อมันมาเพื่อใช้ในการ Arbitrage
“นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาของสินทรัพย์เหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้คนซื้อสินทรัพย์เหล่านี้เพื่อปล่อยให้กู้ยืม ซึ่งนี่ทำให้ราคาสูงขึ้นแสดงว่าหลายคนไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงจากกู้ยืม”
ในช่วงเวลาที่รายงานอยู่นี้เหรียญ Basic Attention Token มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 5% ในขณะที่เหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ ในตลาดส่วนที่เหลือยังคงค่อนข้างนิ่ง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหรียญ COMP อาจก่อให้เกิดฟองสบู่ขนาดเล็กในระบบนิเวศ DeFi ในปัจจุบัน แต่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากความร้อนแรงและการโฆษณาที่เกิดในช่วงฟองสบู่ ICO เมื่อปี 2017
ที่มา : beincrypto