ทุกวันนี้การหลอกลวงคริปโตกำลังเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และดูเหมือนว่า Bitcoin จะติดลิสอยู่ในรายชื่อสกุลเงินคริปโตอันดับต้น ๆ ที่มิจฉาชีพต้องการ โดยมีรายงานว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2020 นักลงทุนได้สูญเสียเงินไปกว่า $ 25 ล้านดอลลาร์ให้กับการหลอกลวงใน Bitcoin และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
การหลอกหลวงคริปโตที่กำลังเฟื่องฟูนี้ได้สร้างผลตอบแทนให้กับนักต้มตุ๋นเป็นจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่การหลอกลวงคริปโตเคอเรนซี่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 20 เท่านับตั้งแต่ปี 2017
เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เฝ้าสังเกตการณ์ธุรกรรมคริปโตอยู่เสมอ Whale Alert ได้ร่วมมือกับ Scam Alert ในการติดตาม , รายงานและวิเคราะห์การทำธุรกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงและเปิดเผยด้วยว่า รายได้ที่มาจากการหลอกลวงคริปโตประจำปีคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในช่วงสิ้นปีนี้
นักต้มตุ๋นกำลังทำเงินเข้ากระเป๋าทุกวัน
ด้วยการหลอกลวงที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นักต้มตุ๋นกล่าวว่าพวกเขาสามารถสร้างทำรายได้สูงถึง $ 130,000 ต่อวัน โดยตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับระดับความยากในการหลอกลวง
เพื่อการหลอกล่อเหยื่อให้ได้เร็วขึ้น การหลอกลวงเหล่านี้มักจะปลอมเป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียง , เว็ปเทรดคริปโตหรือผู้ก่อตั้ง เช่นนาย Elon Musk หรือ CZ ผู้ก่อตั้งเว็ปเทรด Binance นักต้มตุ๋มมักจะใช้โฆษณาการหลอกลวงที่อ้างว่าจะแจกเงินให้กับเหยื่อ หากเหยื่อโอนเงินมาให้กับพวกเขา
วิวัฒนาการของการหลอกลวงคริปโต
การหลอกลวงคริปโตด้วยมัลแวร์และอีเมล์ขยะ นั่นเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปี 2017 ในอดีตนักต้มตุ๋มจะใช้มัลแวร์เพื่อคัดลอกคลิปบอร์ดของเหยื่อและเปลี่ยนเป็นไปที่อยู่ Bitcoin ของพวกเขาแทน
นักต้มตุ๋มจะใช้วิธีการส่งอีเมลขยะ โดยอ้างว่าเหยื่อได้ละเมิดกฎหมายทางคอมพิวเตอร์และขู่ว่าจะเปิดเผยประวัติเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ของเนื้อหาลามกทั้งหมดในประวัติเยี่ยมชมเว็ปไซต์ของพวกเขา ด้วยวิวัฒนาการของตลาดคริปโตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบันแฮ็กเกอร์ได้คิดค้นวิธีการใหม่ในการล่อเหยื่อของพวกเขา
นักต้มตุ๋นได้ค้นพบวิธีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ เช่น การใช้บัญชีสื่อโซเชียลมีเดียหลายบัญชี , เว็บไซต์ Bitcoin faucet ปลอม และสร้างเว็ปเทรดปลอม โดยพวกเขาอ้างว่ามีระบบที่ซัพพอร์ตผู้ใช้งานอยู่ตลอดเวลา
ความซับซ้อนในวิธีการหลอกลวงคริปโต แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันนักต้มตุ๋นเริ่มมีความเป็นมืออาชีพเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่า นักต้มตุ๋นได้ใช้เทคโนโลยี A.I. ขั้นสูง ในการสร้างวิดีโอยืนยันข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ เพื่อขโมยข้อมูลเอาเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์
เว็ปเทรดคริปโตเป็นสาเหตุหลักหรือไม่ ?
ในแพลตฟอร์มเทรดคริปโตชั้นนำ มันมีมักจะตรวจสอบยืนยันข้อมูลส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการหลอกหลวงอยู่เสมอ แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้มีการหลอกหลวงเกิดขึ้นได้ ผู้ใช้คริปโตที่อยู่ในชุมชนมานานมักจะรู้ดีกว่าการเข้าร่วมกิจกรรมการแจกของรางวัลใด ๆ จากบัญชีโซเชียลมีเดียที่ไม่ผ่านการตรวจสอบนั่นทำให้พวกเขาสูญเสียเงินคริปโตไปทั้งหมด
น่าเศร้าที่ผู้คนส่วนใหญ่มักได้รับการแนะนำให้รู้จักกับโลกคริปโตผ่านการหลอกลวงเหล่านี้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขาแยกแยะความแตกต่างระหว่างการฉ้อโกงและเว็ปเทรดคริปโตของจริงไม่ออก
รายงานดังกล่าวยังได้ตอกย้ำความจริงที่ว่า ถึงแม้เว็ปเทรดจะไม่ทราบถึงการหลอกหลวงในรูปแบบใหม่ ๆ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ควรที่จะเข้ามามีบทบาทในการให้ความรู้แก่ผู้ใช้งาน
“บริษัทบล็อคเชนควรมีบทบาทสำคัญในการให้แง่คิดกับผู้ใช้งานแบบฟรี ๆ ผ่านกิจกรรมการแจกรางวัลของพวกเขา โดยการส่งข้อความออกไปและหยุดการโปรโมทกิจกรรมการตลาดเหล่านี้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็ปเทรด พวกเขาควรให้ความรู้แก่ผู้มาใหม่เกี่ยวกับอันตรายใน blockchain” Whale Alert กล่าว
ที่มา : zycrypto