<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จำนวน Supply ของ Stablecoin ได้ได้พุ่งแตะ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีต่อ Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ท่ามกลางความผันผวนของตลาดบิทคอยน์และเหรียญคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆในช่วงปี 2020 นี้ได้ส่งผลทำให้อีก 1 ประเภทของเหรียญคริปโตได้แจ้งเกิดขึ้นมา และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากนั่นก็คือ stablecoin

ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่าจำนวน Supply ของเหรียญเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้วมีนักลงทุนหันมาซื้อเหรียญเหล่านี้ด้วยเงินประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยแต่ละเหรียญ stablecoin ก็มีสัดส่วนที่แตกต่างกันไป

สาเหตุหลักๆนั้นอาจมาจากการที่นักลงทุนนอกประเทศสหรัฐอเมริกาพยายามที่จะหาสกุลเงินดอลลาร์เข้าไปใน portfolio การลงทุนของพวกเขา เนื่องจากหลายๆคนมักจะมองว่าเงินดอลลาร์นั้นเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” เนื่องจากความผันผวนที่ไม่มาก ท่ามกลางกลางวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้

อย่างไรก็ตามเป็น Background อาจส่งผลในด้านบวกต่อเหรียญบิทคอยน์และตลาดคริปโตอย่างมาก เนื่องจากว่าเปลี่ยน Token เหล่านี้มีลักษณะเป็นเหมือนกับ “ดินปืน” ที่จะช่วยจุดปะทุตลาดขาขึ้นครั้งใหม่ขึ้นมา

กิจกรรมการเทรดเหรียญ Stablecoin เริ่มมีมากขึ้น 

ความผันผวนของตลาด bitcoin ที่น้อยลงได้ส่งผลทำให้ Volume การซื้อขายเหรียญดังกล่าวนั้นน้อยลงตามไปด้วย

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสิ่งนี้ส่งผลทำให้ Volume การทำธุรกรรมด้วยเหรียญ Stablecoin  แสกหน้าของ bitcoin ไปแล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้

บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลตลาดคริปโต Unfolded ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ในทวิตเตอร์ของพวกเขาล่าสุด 

“เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2020 จำนวนการส่งเหรียญ stablecoin หากันนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และได้แซงหน้าการทำธุรกรรมของ BTC เป็นครั้งแรก”

ดินปืนสำหรับจุดปะทุตลาดขาขึ้นของ bitcoin

นอกจากนี้ทาง Unfolded ยังได้เสนอข้อมูลที่เผยให้เห็นว่าปัจจุบัน supply ของเหรียญ stablecoin รวมกันทั้งหมดนั้นอยู่ที่ประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึง 2 เท่าจากในช่วงต้นปี

“หลังจากที่มันใช้เวลา 5 ปีสำหรับจำนวน Supply ของเหรียญ stablecoin ในการพุ่งแตะ 6,000 ล้านดอลลาร์  หลังจากนั้นมันก็ใช้เวลาเพียงแค่ 4 เดือนในการเติบโตจาก 6,000 ล้านดอลลาร์ไปเป็น 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์หลังจากที่ตลาดเหรียญคริปโตได้ร่วงลงมาอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา”

ด้วยการที่ กำแพงที่กั้นระหว่างเหรียญ stablecoin และสินทรัพย์ดิจิตอลอื่นๆอย่างเช่น Bitcoin นั้นค่อนข้างต่ำ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มองเหรียญ stablecoin เหล่านี้ว่าเปรียบเสมือนเป็น “ดินปืน”

ซึ่งนั่นหมายความว่าในอนาคตนักลงทุนมีโอกาสที่จะนำเหรียญ stablecoin ของพวกเขามาแลกเป็น bitcoin ทันทีที่ตลาดขาขึ้นเริ่มกลับมา 

แม้ว่าเม็ดเงินจำนวน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์จะดูค่อนข้างเล็กน้อยและอาจจะไม่ได้ส่งผลให้ตลาด bitcoin กลายเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรง แต่ก็เป็นที่เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวนั้นมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอย่างแน่นอน