<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เว็ปเทรด Bitcoin น้องใหม่ในไทย Zipmex เตรียมเปิดแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณได้รายได้แบบ Passive income

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในปัจจุบันกระแสคริปโตกำลังเป็นที่นิยมในบ้านเรา และเราได้เห็นเว็ปเทรดและบริษัทฟินเทคมากมายที่พร้อมใจกันออกมาเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อหวังจะเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดแห่งนี้และเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับนักลงทุน

บริษัทซิปเม็กซ์ จำกัด ( Zipmex) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ที่บริหารงานโดยคนรุ่นใหม่ไฟแรงมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลอย่างคุณ “เอกลาภ ยิ้มวิไล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณ “พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่กลยุทธ์

Zipmex Token

อ้างอิงจากแหล่งข่าวประชาสัมพันธ์ของ Zipmex การเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่นี้จะมาพร้อมกับเหรียญ Zipmex Token ที่ผู้ใช้จะสามารถใช้จ่ายและร่วมสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆของบริษัทได้ และในอนาคตอันใกล้ ผู้ใช้ยังสามารถรับดอกเบี้ยผ่านการถือครองเหรียญดังกล่าวนี้อีกด้วย

Zipmex กำลังเตรียมจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออมเงินในแพลตฟอร์มของซิปเม็กซ์ได้ บริษัทเคลมว่า ผู้ใช้จะได้รับดอกเบี้ยทุกวันจากเหรียญคริปโตที่คุณถือครอง เพียงแค่กดคลิกเท่านั้น ผ่านแพลตฟอร์มของ Zipmex เท่านั้น

นอกจากการใช้งานทั่วไปของโทเค็นแล้ว Zipmex Token ยังมีฟังก์ชั่นในเรื่องของการสะสมคะแนนด้วย รวมถึงได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย เช่น ผลตอบที่เพิ่มขึ้นจากการออม ส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อสินค้าและบริการ , การเข้าถึงกิจกรรมพิเศษในอนาคต นอกจากนี้ การใช้จ่ายด้วยเหรียญ Zipmex Token สามารถได้รับสิทธิเงินคืนสูงสุดถึง 10 % และยังสามารถขายคืนได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการ

ในช่วงเดือนตุลาคม 2020 ที่จะถึงนี้ บริษัทซิปเม็กซ์เผยว่าจะเปิดตัวฟังก์ชั่น Digital Assets Savings ตัวใหม่ โดยลูกค้าจะสามารถใช้งานเหรียญต่าง ๆ ที่มี เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Tether ( USDT) เพื่อการออมเงิน ซึ่งจะได้รับดอกเบี้ยสูงสุดถึง 10 % รวมถึงสามารถแลกคืนได้ทันทีโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย

การร่วมมือกับโปรเจคชื่อดัง

Zipmex ได้มีการร่วมมือกับโปรเจคคริปโตชื่อดังมากมายและดูเหมือนว่าโปรเจคเหล่านี้จะมีประโยชน์ ตอบโจทย์การลงทุนและยังสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตของไทยให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้นในแบบใครหลายคนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

xBullion

xBullion เป็นโปรเจคที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการลงทุนในทองคำ ที่ต้องการความปลอดภัย มีสภาพคล่อง สามารถโอนให้กันเป็นหน่วยย่อย และเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น และเป็นทองคำดิจิทัลเหรียญแรก ที่ผู้ซื้อเปรียบเหมือนกับครองครองกรรมสิทธิ์ในทองคำแท่ง โดยจะมีการ Backup ทองคำเอาไว้ กระบวนการทั้งหมดดูแลโดยหน่วยงานที่มีชื่อเสียงที่สุดและได้รับการยอมรับที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันคนไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่นิยมซื้อทองคำมากที่สุดในโลก ดังนั้นการร่วมมือกับ Zipmex ในครั้งนี้ อาจช่วยให้คนไทยเข้าถึงทองคำในรูปแบบดิจิทัลได้ง่ายมากขึ้น

Gembit

Zipmex จับมือกับนาย Henry Ho ผู้ก่อตั้ง Jewelry Trade Center แห่งประเทศไทย ที่ออกโทเคนอัญมณีดิจิทัล Gembit เพื่อขยายโอกาสทางการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย และขยายตลาดการลงทุนเพชรพลอยสู่นักลงทุนในต่างประเทศ โปรเจค Gembit จะคัดสรรอัญมณีหายากที่มีมูลค่ารวมถึงหนึ่งล้านล้านบาทขึ้นไปและแปลงมาเป็นสกุลเงินดิจิทัลและแบ่งขายให้กับนักลงทุนและผู้สนใจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 30 บาทเท่านั้น

C8P

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วเกี่ยวกับ โปรเจคคริปโตของผู้ก่อตั้งแอพในไทย StockRadars ที่เพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์ม Defi ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

C8P เป็นเหรียญ DeFi ที่ช่วยให้นักลงทุนที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนจากการฝากสินทรัพย์และรับเป็นดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม โดยเพียงแค่ถือโทเค็นไว้เท่านั้น และไม่ต้องเข้าสู่กระบวนที่ยุ่งยากบนแพลตฟอร์ม Uniswap

C8P มีเป้าหมายในการเปิดตัวเพื่อให้นักลงทุนเข้าขึ้นกระบวนการแบบ DeFi มากขึ้น โดยซิปเม็กซ์จะเปิดตัว C8 Plus ซึ่งเป็นโทเคนจากการทำ Farming แห่งแรกในประเทศไทย โครงการนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Zipmex กับ Carboneum และ Stock Radars นักลงทุนที่ซื้อสามารถคาดหวังผลตอบแทนประมาณ 10-20 % ต่อปี (ในขณะที่เขียนบทความอยู่นี้ที่ 14 %)

ซื้อตั๋วหนังด้วยคริปโต

นอกจากนี้บริษัท ซิปเม็กซ์ ยังร่วมมือกับทาง Rapidz Payment ทำให้นักลงทุนสามารถจ่ายค่าตั๋วสำหรับชมภาพยนต์ในเครือ Major Cineplex ฉะนั้นการครอบครองเหรียญดิจิทัลจะไม่ใช่เพื่อการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

สรุป

ดูเหมือนว่าปัจจุบันวงการเว็ปเทรดคริปโตของไทยจะร้อนระอุมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว และมีแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันมีเว็ปเทรดคริปโตที่ได้รับการรับรองจากทางกลตถึง 7 รายด้วยกันและในอนาคตเราอาจได้เห็นเว็ปเทรดเจ้าใหม่ ๆ เปิดตัวเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อวงการคริปโตไทย