เอกสารล่าสุดจากทางสหภาพยุโรปได้มีการเสนอให้แผนการในอีก 4 ปีเพื่อการนำเอาสินทรัพย์ cryptocurrency เข้าไปใช้ในระบบการจ่ายเงินของทางสหภาพยุโรป โดยเอกสารดังกล่าวนั้นได้มีการสนับสนุนให้ผู้บริหารระดับสูงของทาง E.U. ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว โดยมีจุดประสงค์เพื่อผลักดันการใช้เหรียญคริปโตผ่านร่างกฎหมายใหม่นี้อีกดว้ย
กฎหมายใหม่ในการทำให้คริปโตขึ้นมาอยู่บนดิน
โดยอ้างอิงจากรอยเตอร์นั้น ทางคณะกรรมการยุโรปนั้นต้องการที่จะผลักดันการปรับตัวใช้เหรียญคริปโตเนื่องจากว่าการล็อคดาวน์ท่ามกลางโรคระบาดโควิดที่กำลังทำให้การใช้เงินสดนั้นมีความเสี่ยงสูงมากในขณะนี้ และด้วยสิ่งนี้เองทำให้ทางคณะกรรมการเชื่อว่าการหันมาปรับใช้ระบบการเงินโดยที่ไม่ต้องสัมผัสด้วยมือนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ
และการจะทำให้สิ่งนี้ลุล่วงไปได้ ทางคณะกรรมการจะทำการผลักดันร่างกฎหมายแบบละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยี distributed ledger technology (DLT) นอกจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำการปิดรอยต่อข้อกฎหมายด้านคริปโตตัวเก่าในยุโรปอีกด้วย
โดยส่วนหนึ่งของเอกสารร่างกฎหมายนั้นมีใจความว่า
“ในปี 2024 นี้ทาง E.U. จะทำการบังคับใช้ข้อกฎหมายที่จะทำให้สามารถใช้งานเทคโนโลยี distributed ledger technology และสินทรัพย์ crypto ในอุตสาหกรรมการเงินได้ และมันจะต้องมีการกล่าวถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย โดยปี 2024 นี้จะมีการออกใบอนุญาตให้แบบใบเดียวที่ครอบคลุมได้ทั้งหมด ซึ่งมันจะมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสำหรับระบบการเงินแบบดิจิทัลแน่นอน”
ระบบการจ่ายเงินดิจิทัลของยุโรป
นอกจากนี้รายงานดังกล่าวยังได้กล่าวถึงความต้องการของทางคณะกรรมการยุโรปในการนำเอาข้อกฎหมายใหม่นี้ไปผนวกกับข้อกฎหมาย “same risk, same rules, same regulation” ที่มีอยู่แล้ว โดยภายใน 4 ปีที่จะถึงนี้ ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงระบบการจ่ายเงินแบบทันทีผ่านดิจิทัล หลังจากที่มีการทำ KYC เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ทางคณะกรรมการยังกล่าวว่าพวกเขาจะทำการเฝ้าดูต้นทุนการทำธุรกรรมของผู้คน เพื่อที่จะให้แน่ใจว่ามันจะไม่เกินต้นทุนที่ระบบการเงินแบบเก่ามี
เมื่อตอนช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ธนาคารยุโรป 16 แห่งได้ออกมาประกาศการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทด้านการประมวลผลธุรกรรมในยุโรป โดยพวกเขาจะผุดโปรเจคใหม่ ๆ มาภายในปี 2022 นี้ และระบบดังกล่าวนั้นเป็นที่คาดการณ์ว่าจะสามารถนำมาใช้แทน VISA หรือ Mastercard ได้เลยทีเดียว