Ripple ได้ออกมาประกาศรีแบรนด์บริการบางส่วนของพวกเขา พร้อมเน้นย้ำเกี่ยวกับภารกิจในการไประดับโลก อ้างอิงจาก blog ของบริษัทพวกเขา
บริการไประดับโลก
ดูเหมือนว่าจะมีผลิตภัณฑ์บริการสองตัวของ Ripple ที่ถูก rebrand ใหม่ โดยตัวแรกนั้นก็คือ Xpring ซึ่งถือเป็นแพลทฟอร์มที่จะเน้นในด้านของนักพัฒนาเป็นหลัก โดยจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น RippleX
ส่วนตัวที่สองนั้นจะเป็นแพลทฟอร์มในด้านการกุศลและการศึกษา Ripple for Good ที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Ripple Impact
ก่อนหน้านี้การเปลี่ยนแปลงด้าน branding ดังกล่าวนั้นมีการบอกใบ้จากทาง Ripple เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งได้มีการยืนยันข่าวดังกล่าวไปแล้วในวันนี้ โดย การรีแบรนด์นั้นก็ยังถือเป็นหนึ่งในความพยายามของทางบริษัทเพื่อที่จะขยายธุรกิจของพวกเขาไปทั่วโลกนั่นเอง
“พวกเรากำลังกำจัดแรงเสียดทานในโลกการเงินของเรา ด้วยการเปิดใช้งานระบบ payment ของพวกเราเพื่อทุก ๆ คน, ในทุก ๆ ที่” กล่าวโดยทาง Ripple
โดยในการประกาศของพวกเขาในวันนี้ยังได้มีการกล่าวว่าพวกเขาจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เครือข่ายด้านการประมวลผลธุรกรรมอย่าง RippleNet อีกด้วย แต่รายละเอียดเพิ่มเติมก็จะมีมาให้เห็นอีกในงาน Swell ของ Ripple ในช่วงเดือนตุลาคมนี้
ทำไม Ripple ถึงต้องย้ายออกจากสหรัฐฯ
แม้ว่าทาง Ripple นั้นจะมีความพยายามอย่างมากในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะย้ายฐานหลักออกจากบ้านเกิดของตัวเอง ซึ่งก็คือประเทศสหรัฐฯแล้ว
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้บริหารสูงของ Ripple นาย Chris Larsen ได้ออกมากล่าวแสดงความไม่พอใจต่อกฎหมายในประเทศสหรัฐฯในงาน LA Blockchain Summit โดยกล่าวว่าเอเชียหรือยุโรปนั้นอาจจะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของพวกเขา เนื่องจากว่ามันมีสภาพแวดล้อมทางด้านกฎหมายที่เป็นมิตรมากกว่า
นาย Brad Garlinghouse หรือ CEO ของ Ripple ได้ยืนยันแผนการดังกล่าวบน Twitter อีกด้วย โดยกล่าวว่า Ripple นั้นไม่ได้ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงกฎหมาย แต่แค่ต้องการที่จะทำธุรกิจในที่ ๆ กฎหมายนั้นมีความชัดเจน
ปัจจุบันเหรียญ XRP ของพวกเขานั้นดูเหมือนว่าจะได้รับสถานะที่ไม่ค่อยจะชัดเจนจากทางรัฐบาลเท่าไรนัก โดยทาง SEC ได้ยื่นฟ้องพวกเขาไปว่าเหรียญดังกล่าวถูกใช้เพื่อระดมทุนโดยไม่มีใบอนุญาตหลักทรัพย์
แต่ทาง Ripple ก็พยายามสู้คดีมาโดยตลอด และพยายามพิสูจน์ว่าเหรียญ XRP นั้นไม่ใช่หลักทรัพย์