บริษัท Fidelity Digital Assets ที่เป็นบริษัทลูกคของกองทุนยักษ์ใหญ่ Fidelity Investments ได้ออกมาเผยถึงรายงานที่ทำให้นักลงทุน Bitcoin หลาย ๆ คนต้องดีใจ ว่าจะมีเม็ดเงินอีกหลายล้านล้านดอลลาร์เข้ามาในตลาดเพื่อซื้อ Bitcoin
โดยนาย Ria Bhutoria หรือหัวหน้าฝ่ายการวิจัยของ Fidelity ได้คาดหวังว่า Bitcoin นั้นจะกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอนาคต
เม็ดเงินนับล้านล้านดอลลาร์ไหลเข้าตลาด
รายงานของนาย Bhutoria เผยให้เห็นว่ากระแสการโยกย้ายเงินลงทุนจากพอร์ตเข้าไปในตลาดเกิดใหม่นั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมากจากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
สาเหตุหลัก ๆ นั้นเป็นเพราะว่าตลาดเกิดใหม่มักจะมีผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดที่มีมานานแล้ว เนื่องจากว่ามันยังมีผู้เล่นที่น้อยกว่านั่นเอง นอกจากนี้ตลาดที่เกิดใหม่มักจะมีความผันผวนของตลาดสูงกว่า และมีสภาพคล่องที่ต่ำกว่า ซึ่งอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไมนักลงทุนสถาบันจึงไม่ค่อยกล้าเข้าไปเสี่ยงกับตลาดเหล่านี้มากนัก
“การเข้ามาลงทุนใน Bitcoin ของสถาบันการเงินในวันนี้สามารถถูกนำไปเทียบได้กับการยอมรับในตลาด equity ระดับแนวหน้าในช่วงปลายปี 1980 และต้นปี 1990 โดยก่อนหน้านี้การต่อต้านตลาดที่เกิดใหม่นั้นมีขึ้นเพราะความกังวลเกี่ยวกับตัวแปรอย่างเช่นความผันผวนและสภาพคล่องของตลาดที่ต่ำ”
โดยหลังจากที่มันมีผลตอบแทนขนาดมหึมาที่เกิดขึ้นแล้วถึงสอง cycle ส่งผลทำให้ปัจจุบันตลาดเกิดใหม่นั้นมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 11% จากเม็ดเงินถึง 43 ล้านล้านดอลลาร์จากตลาด equity ทั่วโลกเลยทีเดียว
นาย Bhutoria ประเมินว่าหากมีเม็ดเงินเพียงแค่ 1% จากตลาดพันธบัตรมูลค่า 50 ล้านล้านดอลลาร์เข้ามาในตลาด Bitcoin และนั่นอาจจะทำให้มูลค่าตลาดของ BTC เพิ่มขึ้นถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ได้เลยทีเดียว
“แม้ว่านี่เป็นเพียงการคาดการณ์แบบง่าย ๆ เท่านั้น แต่ point หลัก ๆ ก็คือการมองหาศักยภาพในขาขึ้นของ Bitcoin รวมถึงฟีเจอร์ที่จะสามารถดึงดูดนักลงทุนได้ นอกเหนือจากการไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อื่น ๆ ใด เลย”
นักลงทุนรายย่อยจะยังคงไม่ไปไหน
แม้ว่าจะมีนักลงทุนสถาบันกระโดดเข้ามาในตลาดมากขึ้น แต่ทาง Fidelity ก็ยังคงเชื่อว่าตลาด Bitcoin นั้นจะยังคงเต็มไปด้วยนักลงทุนรายย่อยอยู่
โดยกราฟด้านล่างนั้นเผยให้เห็นถึง wallet ที่ถือเหรียญ Bitcoin ที่น้อยกว่า 10 BTC ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาตั้งแต่ปี 2012 เลยทีเดียว