อดีตผู้บริหารธนาคารระดับโลก Goldman Sachs นาย Raoul Pal นั้นเชื่อว่าราคา Bitcoin นั้นจะสามารถวิ่งไปแตะ 1 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 31 ล้านบาทได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นาย Pal นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในนามนักลงทุนในตำนาน และเป็นผู้ที่มักจะออกมาให้คำแนะนำในด้านการเงินและการลงทุนอยู่บ่อย ๆ โดยเขาให้สัมภาษณ์กับบริษัท Stansberry Research พร้อมชี้ถึงแนวคิดล่าสุดของเขาว่าทำไมเขาถึงคิดว่าราคาของ Bitcoin นั้นจะพุ่งขึ้นไปในระดับดังกล่าวได้อย่างรุนแรง
ปัจจุบันเขามีสัดส่วน 50% ของที่อยู่ในสินทรัพย์อยู่ในรูปแบบ Bitcoin มาแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเขาได้กล่าวว่านี่ถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อ Bitcoin เนื่องจากว่าเหตุการณ์การ halving ล่าสุดนั้นเพิ่งจะจบลงไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา (โดยในประวัติศาสตร์นั้น ราคา BTC มักจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากกเกิดการ halving) นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ในด้านวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกในขณะนี้ ที่ทำให้นักลงทุนสถาบันเริ่มหันมาถือ Bitcoin เพื่อเอาตัวรอดจากภาวะเงินเฟ้อจากการพิมพ์เงินที่ไม่หยุดของรัฐบาลอีกด้วย
ราคา Bitcoin อาจพุ่งไปแตะ 1 ล้านดอลลาร์ได้ในอีก 5-6 ปี
เมื่อถูกถามว่าเขาคิดว่าราคา Bitcoin นั้นจะวิ่งไปแตะ 1 ล้านดอลลาร์ได้หรือไม่ นาย Pal กล่าวว่า
“พวกเรากำลังก้าวข้ามผ่านวงจรการ halving อยู่ในตอนนี้ และจากที่ผมทราบมาจากหลาย ๆ สถาบัน ทุก ๆ คนที่ผมเข้าไปพูดคุยด้วย ตอนนี้มันกำลังมีกำแพงขนาดมหาศาลที่กำลังจะเข้ามา มันเป็นกำแพงการเงินขนาดมหาศาล แต่ว่ายังไม่มีช่องทางที่ทำให้พวกเขาทำสิ่งเหล่านั้นได้ และมันก็กำลังจะเข้ามา แต่ตอนนี้ทุก ๆ คนกำลังจ้องมองมันอยู่ ดังนั้นผมคิดว่ามันจะเกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะว่าโลกเรากำลังจะพัง แต่เป็นเพราะว่ากำลังมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่กำลังจ่อเข้ามาในตลาดอยู่ในขณะนี้”
การไหลเข้ามาของเม็ดเงินมหาศาลอาจทำให้เกิดการปรับตัวใช้ Bitcoin ที่มากขึ้น
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นาย Pal มองว่าอนาคตของ cryptocurrency นั้นดูมีแนวโน้มว่าจะไปได้ไกลนั้นหลัก ๆ เป็นเพราะว่าการพิมพ์เงินของรัฐบาลที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ กำลังเข้ามาในตลาดคริปโตอย่างช้า ๆ ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ผู้แต่งหนังสือสำหรับธุรกิจเครือข่ายชื่อดังอย่างพ่อรวยสอนลูกนามว่านาย Robert Kiyosaki ก็ดูเหมือนว่าจะมีแนวคิดที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย โดยเขากล่าวว่าการพิมพ์เงินออกมาอย่างไร้ขีดจำกัดนั้นจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลก และจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน