เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin นั้นได้มีการปรับตัวขึ้นอยู่เหนือ 12,000 ดอลลาร์ไปแล้วในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ตอนช่วงวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
โดยการเคลื่อนไหวของราคาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ราคา BTC นั้นได้พุ่งทะลุระดับ 11,900 ดอลลาร์ไปแล้วเมื่อเวลาประมาณสามทุ่มของเมื่อวาน ตามที่ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไป โดยหลังจากนั้นมันก็พุ่งทะลุ 12,000 ดอลลาร์เมื่อตอนเวลาประมาณเที่ยงคืนพอดี ไปแตะ 12,059 ดอลลาร์บนเว็บ Bitstamp
การพุ่งขึ้นของราคาไปแตะ 12,000 ดอลลาร์นั้นยังมีขึ้นพร้อม ๆ กับการที่โวลุมบนเว็บกระดานซื้อขาย Futures เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงตลอดในช่วงวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา ตามภาพด้านบน และนอกจากนี้ยังมีรายงานอีกด้วยว่าอัตราการเปิด long ของนักลงทุนสถาบันบนตลาด CME นั้นได้พุ่งทะลุจุดสูงสุดใหม่ไปแล้ว
นอกจากนี้ตลาดหุ้นอย่างดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ก็ได้มีการปรับตัวขึ้นของราคาอีกด้วย ส่งสัญญาณบวก
โดยเฉพาะตลาด Dow ที่ปิดเป็น +100 จุด หลังจากที่นาง Nancy Pelosi หรือประธานสภาสหรัฐฯได้ออกมาแสดงถึงท่าทีที่เป็นบวกเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ
การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ล่าสุดนั้นแสดงให้เห็นว่าตลาดของมันได้มีการแยกตัวออกมาจากตลาดหุ้นแล้ว แต่แม้ว่านักวิเคราะห์ด้านคริปโตบน Twitter จะมีความเห็นดังกล่าว แต่มันก็ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุป
แต่ไม่ว่าความสัมพันธ์ต่อตลาดหุ้นของมันจะหมดลงไปแล้วหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ Bitcoin นั้นได้กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2020 นี้ไปแล้ว ตามตารางด้านล่าง
ราคา Bitcoin ต้องเปลี่ยน 12,000 ดอลลาร์ให้เป็นแนวรับ ถึงจะได้ไปต่อ
จุดสูงสุดของราคาในรอบวันนั้นอยู่ที่ 12,059 ดอลลาร์ ซึ่งยังห่างจากจุดสูงสุดในปี 2020 ที่เคยทำไว้ที่ 12,473 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมอยู่พอสมควร การวิ่งชนแนวต้านดังกล่าวส่งผลทำให้นักเทรดเริ่มแสดงความกลัวออกมาว่าประวัติศาสตร์นั้นจะซ้ำรอยและเกิดแพทเทิร์นที่เรียกว่า double top นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้คนเทขายที่แนวต้านดังกล่าวค่อนข้างเยอะ
กราฟด้านบนจาก TradingView แสดงให้เห็นถึงแนวต้านสำคัญที่ระดับดังกล่าว และเป็นแนวต้านที่ราคานั้นเคยพุ่งชนไปแล้วหลายครั้ง ก่อนที่จะร่วงลงมาอย่างรุนแรง ทว่าในครั้งนี้คำถามคือ เราจะสามารถขึ้นไปยืนเหนือมันในระยะยาวได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป
ในขณะที่รายงานข่าวอยู่นี้ ราคา Bitcoin เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 11,973.07 ดอลลาร์แล้ว