รายงานล่าสุดจากธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลก JP Morgan ได้มีการสัมภาษณ์นักเศรษฐศาสตร์จาก เยอรมัน นาย Dan Tapiero โดยเขากล่าวว่า Bitcoin จะสามารถแข่งขันกับทองคำได้ในอนาคตอย่างสูสี เนื่องจากว่าคนยุคใหม่นั้นจะแห่เข้ามาลงทุนกันมากขึ้น และอธิบายถึงสาเหตุที่ราคาของ BTC นั้นจะสามารถพุ่งอย่างรุนแรงจนเป็นมากกว่าสินทรัพย์สำหรับเก็บมูลค่าได้
Bitcoin VS ทองคำ
ในรายงานดังกล่าว นักวิเคราะห์จาก JP Morgan นาย Nikolaos Panigirtzoglou ได้ออกมาอธิบายว่า Bitcoin นั้นจะสามารถแข่งขันกับทองคำได้ในแง่การเป็นสินทรัพย์ และสามารถที่จะไปได้ไกลกว่านั้นมาก พร้อมกล่าวว่าศักยภาพของมันนั้นมีมากกว่าการเป็นเพียงแค่ตัวเก็บมูลค่าอีกด้วย
เขากล่าวว่าแม้ว่ามูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin นั้นจะอยู่ที่แค่ราว ๆ 2.4 แสนล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งสามารถเทียบได้กับของตลาด exchange-traded funds (ETFs, 2.1 แสนล้านดอลลาร์) ปัจจุบันทองคำนั้นถูกทำให้อยู่ในรูปแบบแท่งและเหรียญ โดยหากรวมตลาด ETF กับมูลค่าของทองคำในตลาดทั้งหมด มันจะมีมูลค่าอยู่ที่ราว ๆ 2.6 ล้านล้านดอลลาร์
ดังนั้นนั่นหมายความว่าหาก Bitcoin จะสามารถแข่งขันกับตลาดทองคำได้ มันจะต้องมีมูลค่าที่มากกว่านี้อีก 10 เท่า และหากมีนักลงทุนทองคำเป็นส่วนน้อยที่เริ่มหันไปซื้อ Bitcoin ในตอนนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับ Bitcoin ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้คนยุค Generation Y เริ่มที่จะหันมาเป็นนักลงทุนในตลาดกันมากขึ้น ดูเหมือนว่าจะมีเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดอีกมาก เนื่องจากว่าพวกเขาต้องการที่จะลงทุนใน fintech มากกว่าระบบการเงินแบบเก่า
นอกจากนี้อัตราการเติบโตของ Bitcoin นั้นถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก โดยนาย Nikolaos Panigirtzoglou กล่าวว่า
“ในอีกแง่หนึ่งนั้น โอกาสที่ราคาของ Bitcoin จะกลายเป็นขาขึ้นนั้นก็ค่อนข้างที่จะถูกพิจารณาได้ เนื่องจากว่ามันจะสามารถแข่งขันกับทองคำในการเป็นสกุลเงินทางเลือกได้ ตามที่เราเชื่อ นอกจากนี้กลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลก็จะกลายมาเป็นนักลงทุนที่สำคัญอย่างมากในวงการนี้อีกด้วย”
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังกล่าวเสริมว่าความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลต่อ Bitcoin นั้นได้ทำให้กิจกรรมการเทรด bitcoin โดยเฉพาะในตลาด CME นั้นมีมากขึ้นโดยเฉพาะก่อนที่ทาง PayPal นั้นจะออกมาประกาศเปิดให้บริการด้าน cryptocurrency แล้ว