<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เครื่องมือชี้วัดล่าสุดเผยราคา Bitcoin ได้พุ่งแตะจุดสูงสุดไปแล้ว นักลงทุนหวั่นราคาร่วงอีก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในสัปดาห์นี้ราคา Bitcoin ได้พุ่งแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 19,500 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 60% ภายใน 6 สัปดาห์ โดยนับตั้งแต่ที่เหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกมีการซื้อขายสูงกว่าระดับ 12,000 ดอลลาร์ในกรอบ TF ราย 3 วัน ราคาก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสร้างแท่งเทียนสีเขียวติดต่อยาวนานกว่า 12 แท่งโดยที่ไม่มีสีแดงเลยแม้แต่แท่งเดียว

แรงกระตุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงส่งผลทำให้ตัวชี้วัดทางเทคนิคตัวหนึ่งได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานนี้ ซึ่งในอดีตผ่าน ๆ มา ตัวชี้วัดดังกล่าวได้พุ่งแตะจุดสูงสุดเพียงสามครั้งเท่านั้น ในช่วงก่อนปี 2014 และแต่ในครั้ง การปรับฐานราคา Bitcoin จะร่วงลดลงรุนแรงมากกว่าสองในสามเสมอ ดังนั้นจึงทำให้หลายคนตั้งคำถามว่ามันจะเป็นการซ้ำรอยเดิมของอดีตหรือไม่ ?

การปรับฐานครั้งใหญ่ของราคา Bitcoin จะซ้ำรอยเดิมในอดีตหรือไม่ ?

ราคา Bitcoin นั้นเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่ขับเคลื่อนด้วยความโลภของนักลงทุนที่กลัวว่าจะตกรถหรือพลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย ก่อนที่ราคาจะพุ่งที่ถึงระดับ 1 แสนดอลลาร์

ราคา Bitcoin เริ่มพุ่งขึ้นแบบพาราโบลา หลังที่สามารถยืนเหนือระดับ 12,000 ดอลลาร์ได้ไม่นาน จนกระทั่งมีข่าวว่า PayPal จะเปิดให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ราคาก็เริ่มพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับแต่นั้น อย่างไรก็ตามความล้มเหลวในการทำลายจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์ในช่วงเมื่อวานนี้ ส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างอย่างรุนแรงและเข้าสู่ช่วงการปรับฐานราคาอีกครั้ง

ตัวชี้วัด Fisher Transform พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักเทรดหวั่นราคาร่วง

ตัวชี้วัด Fisher Transform มักถูกใช้เปรียบเทียบกับตัวชี้วัด Stochastic Oscillator โดยในความเป็นจริงทั้งคู่ทำงานในลักษณะที่คล้ายกันมาก แสดงให้เห็นถึงตำแหน่ง Overbought และ Oversold ดังนั้นจึงเป็นการบอกใบ้ช่วงเวลาที่คาดว่าราคาจะเกิดการกลับตัว และเหมือนกับ Stochastic เมื่อใช้ตัวชี้วัด Fisher Transform คุณต้องใช้ตัวชี้วัดอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเป็นการคอนเฟิรม์

ที่น่าสนใจคือ ค่าเบี่ยงเบนจากตัวชี้วัด Fisher Transform ที่ระดับสูงกว่า 7.5 ขึ้นไปนั้นไม่ได้เห็นมานับตั้งแต่ปี 2014 และหากย้อนกลับในช่วงเวลานั้นเราเห็นได้ว่า มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่า Cryptocurrency คืออะไรหรือเพิ่งเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Bitcoin ซึ่งตัวชี้วัดในอดีตเหล่านี้อาจบ่งชี้ได้ว่าสถานการณ์ที่เป็นอันตรายกำลังคืบคลานใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ  แล้ว

โดยหลังจากที่ตัวชี้วัด Fisher Transform พุ่งแตะสูงสุดในเป็นครั้งแรก ราคา Bitcoin ก็ได้มีการปรับฐานลดลงถึง 48% ในเวลาต่อมา

ส่วนในครั้งที่สอง ราคา Bitcoin ได้มีการปรับฐานลดลงถึง 80% และในครั้งที่สามเป็นช่วงที่ Bitcoin ได้เข้าสู่ตลาดแนวโน้มขาลงครั้งแรกระหว่างปี 2014 ถึง 2015 และมีการปรับฐานราคาลดลงถึง 64% ซึ่งในปัจจุบันตัวชี้วัดดังกล่าวได้พุ่งแตะจุดสูงสุดเป็นครั้งที่สี่แล้ว และสิ่งนี้ทำให้หลายคนกังวลว่าราคา Bitcoin นั้นอาจร่วงลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับทั้งสามครั้งที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีช่องว่างราคาของ CME ที่ยังไม่ได้ถูกปิดลงในอดีตที่ระดับ $ 9,200 ทำให้หลายคนเชื่อว่าโอกาสที่ราคา Bitcoin จะมีการปรับฐานราคากว่ากว่า 60% ลงไปปิดช่องว่างราคาดังกล่าวนั้น ฟังดูเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้