<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เรียก XRP ว่า “เหรียญขยะ” หลัง Ripple กล่าวหาว่า ETH และ BTC ถูก “ควบคุมโดยจีน”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อไม่นานมานี้นาย Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เริ่มมีการโต้ตอบกับ Ripple อย่างดุเดือด ภายหลังจากที่บริษัทดังกล่าวได้ออกมาแถลงการณ์พาดพิงถึงเหรียญ Ethereum และ Bitcoin ว่ามีแนวโน้มที่จะถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีน

ข้อความที่ตัดตอนมาจากบทความของ Ripple นั้นผู้เขียน (ทีมงานของ Ripple) ได้กล่าวหาว่า Bitcoin และ Ethereum มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากและยังระบุด้วยว่า XRP ของ Ripple นั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับเหรียญคริปโตอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง Bitcoin :

“นวัตกรรมในอุตสาหกรรม Cryptocurrency จะถูกยกให้จีนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งบล็อกเชนของ Bitcoin และ Ethereum มีแนวโน้มที่จะถูกควบคุมโดยจีน เนื่องจากทั้งสองสินทรัพย์อยู่ภายใต้กฎส่วนใหญ่ที่เรียบง่าย ในขณะที่ XRPL มีมาตรการป้องกันการรวมศูนย์อำนาจ”

“XRP เป็นสกุลเงินที่ใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับ Bitcoin

  1. XRP เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกนำมากันใช้อย่างแพร่หลายโดยใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนแบบโอเพ่นซอร์ส พร้อมด้วยตลาดสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพและทำงานได้อย่างสมบูรณ์
  2. XRP ติดหนึ่งในสามสกุลเงินเสมือนจริงอ้างอิงตามมูลค่าตลาดควบคู่ไปกับ Bitcoin และ Ethereum สกุลเงินเสมือนที่ควบคุมโดยจีน สองสกุลเงินที่สำนักงาน ก.ล.ต. ระบุว่าไม่ใช่หลักทรัพย์”

หลังจากที่ได้อ่านบทความดังกล่าว นาย Vitalik Buterin รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากและออกมาโพสต์ทวีตเรียก XRP ว่าเป็น “เหรียญขยะ” โดยเขากล่าวว่า

“ดูเหมือนว่าทีม Ripple / XRP กำลังจมดิ่งสู่ระดับใหม่ของความแปลกประหลาด พวกเขาอ้างว่าเหรียญ shitcoin ของพวกเขาไม่ควรถูกเรียกว่าเป็นหลักทรัพย์ ด้วยเหตุผลด้านนโยบายสาธารณะ นั่นเป็นเพราะว่า Bitcoin และ Ethereum นั้นถูก “ควบคุมโดยจีน”

เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้น หลังจากที่สำนักงานก. ล. ต. เปิดเผยว่ากำลังเตรียมยื่นฟ้องคดีกับ Ripple โดยอ้างว่า Ripple นั้นมีการขายเหรียญ XRP ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ไม่ได้รับการจดทะเบียน

รายงานดังกล่าวส่งผลทำให้ราคาของ XRP ร่วงลงทันทีกว่า 13.67% แม้ว่า XRP จะยังคงเป็นเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับสามในช่วงเวลานี้ แต่อนาคตของเครือข่ายและโทเค็นนั้นกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากนักวิเคราะห์ได้ยืนยันแล้วว่านี่เป็นคดีนี้เป็นคดีระดับ high-profile ที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยื่นฟ้องและพวกเขามักจะชนะคดีประเภทนี้เสมอ ดังนั้นมูลค่าของบริษัทก็จะอาจร่วงลดลงตามไปด้วยหากพวกเขาถูกตัดสินว่าผิดจริง

อย่างไรก็ตามนาย Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple ได้เปิดเผยความตั้งใจที่จะต่อสู้กับข้อกล่าวหานี้ โดยเขากล่าวว่า “ ก.ล.ตสหรัฐฯ ผิดในเรื่องข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหรียญ XRP”