ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาสินค้านั้นมักจะเป็นเรื่องอุปสงค์และอุปทานอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาที่มีนักลงทุนสถาบันมีความต้องการในการเข้ามาลงทุนมากขึ้นส่งผลให้ราคา BTC พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงโดยเมื่อวานนี้ได้พุ่งทะลุระดับราคาที่ $28,000
ซึ่งแม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะยังคงมีการเข้ามาลงทุนใน Bitcoin กันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่การเข้ามาของกระแสเงินนั้นหยุดลง จะทำให้เกิดการร่วงลงหรือการปรับฐานราคาอย่างแน่นอน จึงต้องมีความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา โดยทาง Cointelegraph ได้เล็งเห็นว่ามีสกุลดิจิทัลที่น่าสนใจดังนี้
Bitcoin (BTC)
ล่าสุดราคา Bitcoin ได้พุ่งทะลุ $28,000 หลังจากที่มีนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาลงทุน ซึ่งได้มีการคาดการณ์กันว่าเป็นนักลงทุนที่ย้ายเม็ดเงินการลงทุนจากสกุลเงิน XRP มายัง Bitcoin
ซึ่งแม้ราคาของ Bitcoin จะไม่สามารถคงอยู่ที่ระดับ $28,000 ได้นานมากนัก แต่แนวโน้มของนักลงทุนระยะสั้นจำนวนมากยังคงรอคอยที่จะลงทุนใน Bitcoin กันอยู่ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้อาจจะส่งผลให้ราคาผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่หากสามารถยืนเหนือแนวต้านตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันที่ระดับ $26,600 ไว้ได้จะส่งผลให้ราคา Bitcoin กลับมาเป็นขาขึ้นได้
นอกจากนี้กราฟแท่งเทียนราย 4 ชั่วโมงนั้นได้บ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่มีความผันผวนสูงไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าสภาพราคาอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือลง โดยจากกราฟแสดงให้เห็นถึงนักลงทุนจะพยายามเข้าซื้อทุกครั้งที่ราคาร่วงลงมา แม้เพียงเล็กน้อย
Litecoin (LTC)
ที่ผ่านมาราคาของเหรียญ LTC ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งหลังจากการร่วงลงในวันที่ 23 ธันวาคม ราคา LTC ก็ได้ดีดตัวกลับขึ้นอย่างรุนแรงในวันถัดมา และทำให้ราคาพุ่งทะลุแนวต้าน $124 ได้
โดยจากกราฟแท่งเทียน 4 ชั่วโมง แสดงให้เห็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และดัชนี RSI ที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการพุ่งทะยานนี้จะเริ่มชะลอตัวลงหลังเริ่มเข้าใกล้แนวต้านที่ระดับ $136
ซึ่งหากสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวไปได้ ก็อาจพุ่งไปหยุดอยู่ที่ระดับ $145 แต่หากไม่สามารถทะลุแนวต้านไปได้และร่วงลงต่ำกว่าแนวรับที่ระดับ $118 อาจส่งผลให้เกิดการปรับตัวของราคาอย่างรุนแรง
Bitcoin Cash (BCH)
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาของ BCH ได้ทะลุแนวต้านที่ระดับ $353 ไปได้ถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่สามารถรักษาระดับราคาเหนือช่วงราคาดังกล่าวได้
ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกำลังขายที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาลทุกครั้งที่ราคาพุ่งสูงกว่าระดับราคา $353 แต่ในทางกลับกันหากระดับราคาร่วงลงต่ำกว่า $280 แล้วราคาก็จะดีดตัวกลับมาแทบจะทันที โดยได้มีการคาดการณ์ว่าหากสามารถทะลุแนวต้านที่ $353 อย่างรุนแรงจะส่งผลให้ราคาไปถึงระดับ $400 ได้
โดยปัจจุบันดัชนี RSI อยู่ที่ 61 ซึ่งชี้เห็นว่ากำลังซื้อกำลังเพิ่มมากขึ้น โดยกราฟแท่งเทียน 4 ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าระดับราคาอยู่ที่ $255 ถึง $370 ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าหากกำลังซื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ราคาจะพุ่งไปถึงระดับ $400 ได้อย่างไม่ยากเย็น
Monero (XMR)
จากกราฟแท่งเทียนได้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังรอทำกำไรหากหาราคพุ่งสูงเกิน $167 ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาของ XMR สามารถทำลายระดับราคาที่มีรูปแบบ head and shoulders กลับหัวได้
ซึ่งจากกราฟค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันจะพบว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และดัชนี RSI ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ทำให้คาดการณ์ได้ว่าราคาจะยังคงแนวโน้มนี้ต่อไปได้
ซึ่งหากราคาของ XMR สามารถไปถึงระดับ $170 ได้แล้วอาจพุ่งต่อไปจนถึงระดับราคา $197 ได้โดยจะมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ $200 แต่หากไม่สามารถไปถึงจุดดังกล่าวได้ ก็อาจจะทำให้เกินการปรับฐานราคาและร่วงลงไปยังระดับ $135 เหรียญได้
THETA
ระดับราคาของ THETA นั้นได้แสดงให้เห็นถึงการพุ่งขึ้นของราคาในแนวดิ่ง โดยจากดัชนี RSI แล้วแสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อที่มากเกินไปส่งผลให้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาราคาร่วงลงอย่างรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตามราคาไม่ได้ร่วงลงต่ำกว่าระดับ FIB retracement ที่ 38.2% หรือที่ระดับประมาณ $1.320 โดยได้คาดการณ์ว่าราคาจะถีบตัวกลับมา
ซึ่งแนวต้านนั้นอยู่ที่ระดับ $1.742 และหากฝ่าไปได้ราคาอาจพุ่งสูงถึง $2.000 แต่ในขณะเดียวกันราคาร่วงลงจนทะลุแนวรับที่ $1.189 ก็อาจส่งผลให้ราคาร่วงลงต่อและเกิดเป็นการปรับฐานราคาอีกครั้งได้
ที่มา: cointelegraph