ภายหลังจากที่ราคา Bitcoin ได้พุ่งทะลุ 1 ล้านบาทอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์โลกนั้น ส่งผลทำให้มีสื่อหลายแขนงออกมารายงานนาทีประวัติศาสตร์ดังกล่าวมากมาย และมีนักลงทุนแห่กันเข้าไปซื้อ BTC กันอย่างคับคัง
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีทุกคนที่จะเห็นดีงามกับการทำ New all time high ของราคาอย่างบ้าคลั่งนี้สักเท่าไรนัก เมื่อล่าสุดนั้นมีผู้เชี่ยวชาญชาวไทยที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับ Bitcoin แล้ว โดยเขาเชื่อว่าการซื้อ Bitcoin นั้นไม่ใช่การลงทุนแต่อย่างใด แต่เป็นการพนัน
โดยอ้างอิงจากช่อง YouTube ของนาย ลอย ชุนพงษ์ทองที่ชื่อว่า Loy Academy นั้น เขาได้มีการออกมา “แฉ” ว่า Bitcoin คืออะไรกันแน่ หากมันไม่ใช่การลงทุน
โดยเริ่มต้นมานั้นเขาได้มีการนำเอากราฟ Bitcoin ย้อนหลัง 7 ปีขึ้นมานำเสนอ พร้อมชี้ให้เห็นว่าราคาในช่วงปี 2017-2018 นั้นราคาได้ร่วงลงอย่างรุนแรง
“จากที่เคย $19,000 ตกมาเหลือแค่ $6,000 เท่านั้นแหละ และมันก็ Crash อยู่เรื่อย ๆ ต้นปีที่แล้วคือปี 2020 มันก็ crash อีกครั้งหนึ่ง ตกจาก 11,000 เหลือ 5,000 เหรียญ”
นายลอยกล่าวว่าสิ่งที่ทำให้ราคาของ bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงนั้นก็คือการพิมพ์เงินของรัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นมาเรื่อย ๆ ส่งผลทำให้ผู้คนเกรงกลัววิกฤตเงินเฟ้อจนต้องหันมาลงทุนซื้อ Bitcoin นั่นเอง
“มันเลยมีแรงผลักดันที่ทำให้คนกลุ่มนึ่งเข้าใจว่าไอแบงค์ US Dollar จะกลายเป็นแบงค์กงเต้ก หุ้นก็ขึ้น และ Bitcoin มันก็ขึ้น แต่ว่าไอคนเล่น Bitcoin เนี่ย ผมจะบอกก่อนว่ามันไม่ใช่นักลงทุน มันเป็นนักเก็งกำไร ในขณะนั้น นักพนัน”
นอกจากนี้เขายังได้มีการสอนเกี่ยวกับการนำเอาเงินไปใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าผ่าน 4 วิธีอีกด้วย นั่นประกอบไปด้วย
- การให้กู้ – อัตราดอกเบี้ย สิ่งค้ำประกัน
- การลงทุน – มูลค่า/ราคา แนวโน้มธุรกิจ
- เก็งกำไร – แนวโน้มอุตสาหกรรม
- พนัน – ความน่าจะเป็น
โดยเขากล่าวว่าการลงทุนนั้นเปรียบเสมือนกับเป็ดที่ออกไข่ให้กับผู้ลงทุน
“การที่คุณจะไปเลือกซื้อเป็ดออกไข่ คุณก็ต้องเข้าใจว่าไอเป็ดตัวแรก มันออกไข่ทุกวัน วันละฟอง ไอเป็ดตัวที่สองไม่ได้ออกไข่ทุกวัน มันออกวันเว้นวัน อย่างงี้มูลค่าของเป็ดตัวแรกมันก็เป็นสองเท่าของตัวที่สองถูกไหมครับ”
ส่วนการเก็งกำไรนั้น เขากล่าวว่า
“มันไม่ใช่ว่าคุณเก็งหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เช่นคุณซื้อหุ้น CP แล้วบอกว่าเป็นการเก็งกำไร อันนี้ไม่ถูก ถ้าคุณจะเก็งกำไรธุรกิจอาหาร ต้องซื้อหุ้นหลายตัวในกลุ่มที่เป็นธุรกิจอาหารนึกออกไหมครับ เมื่อ 5 ปีก่อนผมเก็งกำไรธุรกิจกัญชา แล้วบังเอิญผมโชคดี ผมก็ได้ผลตอบแทนที่ดี ขณะเดียวกันผมก็เก็งกำไรธุรกิจที่เกี่ยวกับแร่ธาตุเช่นลิเทียม อันนี้ผมเก็งกำไรผิดพลาดผมก็ขาดทุนไป ไม่ได้หมายความว่าผมซื้อหุ้นบริษัทเหมืองแร่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง หมายความว่าผมซื้อกระจายหลาย ๆ บริษัทที่เป็นกลุ่มนั้น จึงจะเรียกว่าฉลาดในการเก็งกำไร”
ที่น่าสนใจก็คือ ข้อสุดท้ายที่เป็นการพนันนั้น เขากล่าวว่ามันเกี่ยวกับความน่าจะเป็น และก็ขึ้นอยู่กับดวง พร้อมเผยกราฟของ Bitcoin อีกครั้งหนึ่ง
“Bitcoin มันไม่ได้มีมูลค่าในตัวมันเอง สิ่งที่มีมูลค่านั้นคือคนให้ค่ามัน มันไม่เหมือนกับเป็ด ไม่ว่าชนชาติไหนก็เห็นความสำคัญของเป็ดที่มันออกไข่ได้ แต่ bitcoin มันออกไข่ไม่ได้ มันเพิ่มพูนตัวเองไม่ได้ และโลกไม่จำเป็นจะต้องใช้ Bitcoin เลย คือทำให้มันหายไปจากโลกนี้ วันพรุ่งนี้ชาวโลกส่วนมากก็ไม่เดือดร้อน ยกเว้นคนที่ถือ bitcoin ในเมื่อมันออกไข่ไม่ได้ มันให้ปันผลไม่ได้ มันไม่ใช่การลงทุน”
พร้อมเสริมว่า
“ไอที่เขาบอกว่า bitcoin เป็นการลงทุนนั้น เป็นคำโกหก และถ้าพูดแบบนี้ในแคนาดา ในประเทศที่เจริญแล้วว่าการซื้อ Bitcoin เป็นการลงทุน จะติดคุก เพราะเป็นการโกหกนักลงทุน ไม่มีกฎหมายในประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่ยอมให้โฆษณาได้ว่าการซื้อ Bitcoin เป็นการลงทุน ถ้าผมเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์นะ แล้วมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เนี่ย เที่ยวไปโฆษณาว่าการซื้อ Bitcoin เป็นการลงทุนละก็ ผมต้องเรียกมาคุย แล้วผมจะดูว่ามีช่องทางกฎหมายช่องไหนที่สามารถลงโทษบริษัทที่ไปโฆษณาอย่างนี้ได้”
เขายังได้กล่าวอีกด้วยว่าในหลายประเทศนั้นไม่มีการซื้อขาย bitcoin เป็นเพราะประเทศเหล่านั้นมองว่า Bitcoin เป็นช่องทางในการโยกย้ายเงินที่ทุจริต
“ถ้าคุณมีเงินและมีการแลกเปลี่ยนที่สุจริตจริง ทำไมคุณไม่แลกเปลี่ยนผ่านธนาคาร ทำไมคุณต้องแอบ ๆ ซ่อน ๆ โยกย้ายเงินโดยที่ไม่ได้ให้ราชการรู้ ถูกไหมครับ”
ก่อนที่เขาจะจบวีดีโอด้วยการหยิบยกกรณีการเก็งกำไรดอกทิวลิปในอดีตมาพูดอีกด้วย พร้อมแนะนำว่าการลงทุนใน bitcoin ที่แท้จริงก็คือการขุด Bitcoin
โลกเราไม่จำเป็นต้องใช้ Bitcoin จริงหรือ?
ก่อนที่ผู้อ่านจะตกใจกลัวนั้น ทางเราอยากจะให้ลองหันไปดูสักนิดว่านอกเหนือจากการนำไปใช้ซื้อขายเก็งกำไรแล้ว Bitcoin ยังมีประโยชน์ในด้านใดอีกบ้าง
ด้วยความที่มันถูกสร้างขึ้นมาท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลกในช่วงปี 2008 นั้น ผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจต่างก็เป็นเดือดเป็นแค้นรัฐบาลที่เป็นตัวต้นเหตุในการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาย่ำแย่ลง ดังนั้นนั่นจึงเป็นจุดหลักของ BTC ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาแก้ไขปัญหา painpoint ตรงนี้โดยเฉพาะ นั่นก็คือการคืนอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เอาทุกอย่างไปฝากไว้กับรัฐบาล
โดยเราจะสังเกตเห็นได้จากกรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วในอดีต อย่างเช่นประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง ที่มาจากภาวะการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาลอย่างเช่นประเทศเวเนซุเอลา ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าประชาชนในประเทศไม่มีอาหารเหลือเพียงพอในการดำรงชีวิต เนื่องจากว่าอาหารมีค่ามากกว่าเงิน อีกทั้งรัฐบาลยังพยายามที่จะปิดกั้นผู้คนไม่ให้ซื้อสกุลเงินต่างประเทศได้ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขั้นร้ายแรง และนั่นทำให้ Bitcoin กลายมาเป็นทางเลือกสุดท้ายของพวกเขาในการเอาชีวิตรอด โดยประชาชนได้ใช้ Bitcoin ในการสั่งซื้ออาหารจากต่างประเทศเข้ามานั่นเอง
นอกจากนี้แล้ว ในด้านการโอนเงินระหว่างประเทศนั้น Bitcoin ยังสามารถทำได้ถูกกว่า และรวดเร็วกว่าระบบการเงินแบบเก่าที่ล้าหลังอย่างมาก ลองนึกภาพดูว่าคุณจะต้องโอนเงินให้กับครอบครัวของคุณที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งอย่างเร่งด่วน เนื่องจากว่าพวกเขากำลังประสบปัญหา หากคุณทำผ่าน SWIFT นั้น ธุรกรรมจะต้องใช้เวลาอย่างต่ำก็ 3 วัน อีกทั้งพวกเขายังยินดีที่จะชาร์จค่าธรรมเนียมจากคุณอย่างมหาศาลอีกด้วย พร้อม ๆ กับเอกสารการยืนยันตัวตนมากมายที่ยุ่งยาก
นับตั้งแต่ bitcoin เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ มันได้นำพานวัตกรรมเปลี่ยนโลกให้เกิดขึ้นมาอีกมากมาย อีกทั้งยังบีบบังคับให้รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกเริ่มตื่นตัว หันมาสร้างเหรียญของตัวเองอีกด้วย หลังจากที่เทคโนโลยีด้านการโอนเงินระหว่างประเทศของพวกเรานั้นล้าหลังมานาน โดยตัวอย่างที่มีให้เห็นก็คือโครงการอินทนนท์ของแบงก์ชาติไทยในตอนนี้นั่นเอง
ตลาดซื้อขาย Bitcoin อย่างถูกกฎหมายในประเทศชั้นนำ
ด้วยความที่มันได้รับความนิยมสูง และมีประโยชน์อย่างมาก ทำให้ตอนนี้รัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศเริ่มให้การยอมรับมันด้วยการออกกฎหมายมากำกับให้มีการซื้อขาย bitcoin อย่างถูกกฎหมายแล้ว
ยกตัวอย่างเช่นในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างแคนาดานั้นก็มีตลาดซื้อขายคริปโตชื่อว่า Wealthsimple ที่มีการจดทะเบียนกับรัฐบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังเปิดให้นักลงทุนในประเทศสามารถลงทุนได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีประเทศที่พัฒนาแล้วอีกแห่งอย่างสหรัฐฯ อเมริกาที่มีการออกใบอนุญาตผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลให้จากรัฐบาลให้กับเว็บกระดานซื้อขายคริปโตในเมืองนิวยอร์ค โดยมันมีชื่อว่า BitLicense ที่น่าสนใจก็คือมันมีมาตั้งแต่ปี 2014 แล้วอีกด้วย ซึ่งนำหน้าไทยไปขณะนั้นถึง 2 ปีเลยทีเดียว
ปัจจุบันเว็บกระดานเทรดคริปโตที่ได้รับอนุญาตในสหรัฐฯ ให้เปิดเทรดสำหรับนักลงทุนได้อย่างถูกกฎหมายก็คือ Coinbase, Binance US, Gemini และอื่น ๆ อีกมากมาย
ส่วนในประเทศไทยนั้น แม้ว่าจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ตอนนี้ Bitcoin มีสถานะที่ถูกกฎหมายแล้ว โดยปัจจุบันเรามีเว็บกระดานเทรด Bitcoin (Exchange) ที่ถูกกฎหมายโดยได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. แล้วนั่นก็คือ Bitkub, Satang Pro, Zipmex, Huobi Thailand และอีกหลายเจ้า ที่ยังไม่ได้เปิดให้บริการ
ปัจจุบันราคา Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก หากนับตั้งแต่ช่วงปี 2015 ที่ผ่านมา โดยมันได้เพิ่มจากระดับหลักหมื่นบาทในตอนนั้น มาเป็นหลักล้านบาทในตอนนี้ ท่ามกลางการแห่เข้ามาของนักลงทุนสถาบันทั่วโลก
แม้ว่าอาจารย์ลอยจะไม่ต้องการ Bitcoin แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยผู้เขียนคนนี้ก็ต้องการแล้ว 1 คน แล้วคุณล่ะ ต้องการเก็บ Bitcoin ไว้ในพอร์ทด้วยหรือไม่?