เมื่อพูดถึง Blockchain หรือ Cryptocurrency แล้ว สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงมักจะเป็น Bitcoin (BTC) อยู่เสมอ ซึ่งแม้จะมีความผันผวนของราคาเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันราคา Bitcoin มีมูลค่าสูงถึงหลักแสนบาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มนักลงทุนในตลาดคริปโตที่อาจมีการลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนหลักล้านจึงส่งผลให้นักลงทุนเหล่านั้นมองหาช่องทางที่สามารถเก็บ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ
โดยกระเป๋าเงินดิจิทัลแต่ละตัวนั้นก็จะมีความสามารถแตกต่างกันไป ซึ่งบางตัวอาจมีระบบความปลอดภัยที่สูงเหมาะสำหรับเก็บเหรียญในระยะยาว มีสภาพคล่องในการทำธุรกรรมที่เหมาะกับการลงทุน หรืออาจสามารถเก็บได้หลากหลายสกุลเงิน ซึ่งทางเว็บไซต์ Investopedia ได้รวบรวมและสรุป Wallet ที่สามารถเก็บ Bitcoin ได้ดีที่สุดไว้ในนี้แล้ว
Exodus
Exodus เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่สามารถใช้งานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนพร้อมให้บริการอยู่บนแอปฯ นี้ด้วย โดยผู้ใช้งานนิยมใช้ Exodus เพราะระบบ Swaps สามารถแลกเปลี่ยนได้มากกว่า 100 สกุลเงิน
ด้วยหน้าต่างที่ใช้งานง่ายทำให้เป็นมิตรต่อนักลงทุนหน้าใหม่ และยังมีระบบช่วยเหลือนักลงทุนมือใหม่ที่จะพาเข้าสู่ตลาดคริปโตที่ซับซ้อนได้
แต่ด้วยเครื่องมือที่มีจำกัดทำให้อุปกรณ์ใช้งานอาจไม่ได้มีหลากหลายมากนัก อีกทั้งยังเป็น closed source wallet ที่ไม่ได้เปิดเผย source code ให้เห็นทำให้มีผู้ใช้งานกังวลถึงความน่าเชื่อถือของมัน แต่กระนั้นผู้ใช้งานก็ยังคงใช้ Exodus กันอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน
โดยค่าธรรมเนียมของการใช้ Exodus นั้นสามารถปรับแต่งได้เพื่อความรวดเร็วและคล่องตัวในการทำธุรกรรมของเหรียญที่ดียิ่งขึ้น
Electrum
Electrum นั้นเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลรุ่นดั้งเดิมสำหรับ Bitcoin ซึ่งได้เปิดมาตั้งแต่ปี 2011 โดยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงของระบบเลย แม้ว่าจะมีเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้นให้สามารถใช้งานได้ แต่หน้าต่างและรูปแบบการใช้งานนั้นถูกสร้างมาเพื่อจัดเก็บและทำธุรกรรม Bitcoin เพีงสกุลเดียวเท่านั้น
โดยผู้ใช้งานจะสามารถเลือกรูปแบบการจ่ายค่าธรรมเนียมได้ว่าจะใช้เป็นสกุลเงิน Bitcoin หรือ SegWit มารับรองการจ่ายเงิน อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งระดับความปลอดภัยของกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ ว่าต้องการความปลอดภัยเป็น การยืนยันตัวตน 2 ขั้น (2-Factor Authenticartion) หรือ ความปลอดภัยระดับสูงที่ต้องมีการยืนยันข้อมูลจากหลากหลายระบบความปลอดภัย
Electrum จึงเหมาะกับใช้งานที่ต้องเก็บ Bitcoin โดยมีระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม และสามารถปรับแต่งได้
Mycelium
Mycelium เป็นแอปฯ มือถือที่สามารถทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงิน Bitcoin ได้ โดยในปัจจุบันนั้นรองรับเพียงแค่ Bitcoin สกุลเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างการใช้งานที่ดูดีและมีแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเป็นเงิน Fiat อยู่ภายในแอปฯ
Mycelium นั้นยังสามารถเลือกระดับค่าธรรมเนียมในการใช้งานได้ โดยแลกกับความเร็วในการทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง
นอกจากนี้ยังมีระบบที่น่าสนใจ ซึ่งจะรองรับการจัดเก็บกระเป๋าเงินใน Hardware ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเช็คจำนวน Bitcoin ที่มีล่าสุดบนเครื่องมือสื่อสารที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
Ledger Nano X
Ledger Nano X เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นที่ 2 ของบริษัท Ledger ซึ่งได้อยู่ในวงการคริปโตมานานหลายปีแล้ว โดยตัว Nano X จะมีลักษณะเป็นแฟลชไดรฟ์ สำหรับเชื่อมต่อเข้าอุปกรณ์ของผู้ใช้งานผ่าน USB, USB-C หรือ Bluetooth รวมไปถึงการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือทั้งในระบบ Andriod และ iOS โดยรองรับสกุลเงินดิจิทัลได้กว่า 1,500 สกุล และมีการอัพเดทเพิ่มขึ้นสกุลเงินใหม่ ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้แล้ว Ledger ยังได้เพิ่ม Ledger Live Software ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นปริมาณเหรียญภายในกระเป๋าได้อย่างต่อเนื่องด้วย โดยปัจจุบัน Ledger ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดา Hardware wallet ที่สามารถจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัลได้
Ledger Nano S
Ledger Nano S นั้นเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกสุดของบริษัท Ledger ซึ่งแม้จะสามารถจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัลได้กว่า 1,000 สกุล แต่เนื่องจากไม่มีช่องให้เชื่อมต่อด้วย USB-C และ Bluetooth ทำให้อาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ได้
โดยตัว Nano S นั้นแทบจะเหมือนกับ Nano X ทุกประการ มีสกุลเงินที่รองรับ และสามารถเชื่อมต่อกับ Ledger Live Software ได้เช่นกัน แต่จำนวนกระเป๋าเงินของ Nano S ที่เก็บได้นั้นจะน้อยกว่ามาก โดยสามารถเก็บได้เพียง 18 กระเป๋า ในขณะที่ Nano X เก็บได้สูงถึง 100 กระเป๋า
แต่ถึงแม้จะลบกระเป๋าออกจากการบันทึกของ Nano S แต่สกุลเงินที่เก็บไว้นั้นก็จะยังคงอยู่ดีเพราะมีการจัดเก็บไว้บน Blockchain แล้ว ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถสังเกตได้ผ่านทาง Ledger Live Software
ซึ่ง Ledger Nano S นั้นเหมาะสำหรับผู้ต้องการเก็บสกุลเงินคริปโตที่สามารถใช้งานได้ง่าย มีความปลอดภัยสูงและสามารถเก็บได้หลากหลายสกุลเงิน
Trezor Model T
Trezor Model T เป็นอุปกรณ์รุ่นที่ 2 ทาง Trezor ได้ผลิตออกมา โดยมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Ledger Nano แต่ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ได้ร่วมงานกันกับบริษัท Trezor ได้อีกด้วย อาทิเช่น Changelly และ Shapeshift ซึ่งความสะดวกสบายนี้แลกมากับราคาที่สูงถึง $170 หรือประมาณ 5,100 บาท
โดยอุปกรณ์ Model T นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ Touch screen ทำให้ง่ายต่อการใช้งานเมื่อเทียบรุ่นก่อนหน้า อีกทั้งช่องสำหรับใส่ MicroSD card หากผู้ใช้งานต้องการนำ MicroSD card มาเข้ารหัส PIN เพื่อเสริมความปลอดภัยของอุปกรณ์
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน USB-C ทำให้สามารถเชื่อต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังรองรับสกุลดิจิทัลได้กว่า 1,400 สกุลเงินอีกด้วย
ที่มา: Investopedia