<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารระดับโลก JP Morgan เตือนการมาของ Bitcoin ETF อาจทำให้ราคา BTC ร่วงอย่างรุนแรงในระยะสั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิเคราะห์จากธนาคารอันดับต้น ๆ ของโลก JP Morgan ได้ออกมาเตือนว่าหากก.ล.ต. สหรัฐฯอนุมัติคำขอเปิดเทรดกองทุน Bitcoin ETF แล้วล่ะก็ สิ่งนี้อาจจะทำให้ราคาของ Bitcoin นั้นร่วงลงอย่างรุนแรงได้ในระยะเวลาสั้น ๆ

สาเหตุหลัก ๆ ที่พวกเขาออกมาอ้างในลักษณะดังกล่าวนั้นเป็นเพราะว่า Bitcoin ETF อาจจะสามารถแข่งขันกับตลาดกองทุนด้านคริปโตขนาดใหญ่อย่าง Grayscale Bitcoin Trust และดึงดูดเม็ดเงินจากตลาดดังกล่าวมาเป็นจำนวนมากได้นั่นเอง

นอกจากนี้พวกเขายังคาดการณ์อีกด้วยว่าการมาของ Bitcoin ETF จะมาทำลายการผูกขาดของ Grayscale Trust ในขณะนี้ ส่งผลทำให้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดอย่างมหาศาลและรวมถึงราคาพรีเมียมในตลาดอีกด้วย และนั่นอาจจะส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงได้ในระยะเวลาสั้น ๆ

โดยอ้างอิงจาก Bloomberg นั้น ได้เผยว่ามีนักวิเคราะห์รายหนึ่งที่เคยทำนายการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ว่าอาจจะพุ่งไปถึง 146,000 ดอลลาร์นามว่า Nikolaos Panigirtzoglou ออกมากล่าวว่า

“โวลลุมที่ไหลออกจากตลาด GBTC และการล่มสลายของอัตราพรีเมียมนั้นจะส่งผลกระทบต่อ Bitcoin ได้ในระยะสั้น เนื่องจากว่า GBTC นั้นมีความสำคัญอย่างมากในตลาด”

โดยอ้างอิงจากการทวีตล่าสุดจากทาง Grayscale นั้น อัตราสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขาลดลงไปถึง 13.7% จากจุดสูงสุดที่ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯ นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ส่งผลทำให้ผู้คนในวงการคริปโตมองว่าแนวโน้มการอนุมัติ Bitcoin ETF ของทาง ก.ล.ต. นั้นมีค่อนข้างที่จะสูงมาก โดยเมื่อไม่นานมานี้บริษัท VanEck Associates ได้มีการยื่นเอกสารเพื่อขอเปิดตลาด Bitcoin ETF จากทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมาความพยายามของพวกเขาไม่เคยประสบผลสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ภาพเก่า ๆ กำลังจะกลับมา?

การรอคอย Bitcoin ETF ของนักเทรดคริปโตในตลาด Bitcoin นั้นดูเหมือนว่าจะมีมาตั้งแต่ตอนช่วงเดือนธันวาคมปี 2017 แล้ว ซึ่งหากย้อนกลับไปช่วงนั้น คนที่ยังเคยอยู่ในวงการคริปโตมาพักหนึ่งจะเข้าใจถึงความรู้สึกในการรอคอยนี้ดี

ซึ่งในขณะนั้นมีผู้คนมองว่ารัฐบาลภายใต้การดูแลของนายโดนัลด์ ทรัมป์นั้นต้องการที่จะทำให้ฟองสบู่ของตลาดคริปโตนั้นแตกออกด้วยการให้อนุมัติผลิตภัณฑ์ด้านฟิวเจอร์สำหรับ Bitcoin แทนที่จะเป็นกองทุน ETF

ซึ่งเราได้เห็นตลาดฟิวเจอร์ของ Chicago Mercantile Exchange (CME) และ Chicago Board Options Exchange (CBOE) ที่ได้มีการเปิดตัว Bitcoin Futures มาแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปี 2017 ที่ผ่านมา และ 12 เดือนให้หลังจากนั้น ตลาด Bitcoin ก็ร่วงลงอย่างรุนแรงที่ 84% เหลืออยู่แค่ 3,200 ดอลลาร์

ราคา Bitcoin เริ่มมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

ปัจจุบันราคา bitcoin นั้นเริ่มมีการปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 36,000 ดอลลาร์แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ร่วงลงจากระดับ 40,000 ดอลลาร์ลงไปแตะ 30,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าการปรับฐานดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เนื่องจากว่าตลาดขาขึ้นที่ดีนั้นจะต้องมีการปรับฐาน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่นั้นก็กำลังเตือนว่าราคาอาจจะมีการปรับฐานลงอีกได้ทุกเมื่อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการร่วงลงของราคาเมื่อไม่นานมานี้ที่ร่วงลงมาอย่างน้อย 30%

นาย Anthony Pompliano ได้ออกมากล่าวว่าเมื่อวานนี้ Bitcoin ได้หลุดออกไปจากมือของเม่า ไปหาเจ้ามือ ในขณะที่นาย Michael Saylor หรือ CEO ของ MicroStrategy กล่าวว่า

“วันนี้ถือเป็นวันที่ยืนยันได้ว่า Bitcoin นั้นจะไม่สามารถพุ่งขึ้น 1,500% ต่อปี เป็นเวลามากกว่า 1 เดือนได้ค่อครั้ง”