สถาบันลงทุนระดับโลก VanEck กำลังเผชิญกับคดีความจาก SolidX ซึ่งเป็นบริษัท Blockchain ที่เคยร่วมงานกัน โดยเป็นคดีความเกี่ยวกับ Bitcoin ETF ที่ทาง VanEck ได้ยื่นขอจดทะเบียนกับก.ล.ต. เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยในปี 2017 VanEck เป็นบริษัทแรกที่ได้ทำการจดทะเบียนภายใต้ข้อกฎหมายบริษัทลงทุน (Investment Company Act) เพื่อทำการระดมทุนและนำเงินไปลงทุนใน Bitcoin ในขณะที่ SolidX ได้ดำเนินการสร้างและพัฒนา Bitcoin ETF มาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ทำการร่วมงานกันตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2018 โดย SolidX นั้นมีประสบการณ์ในด้าตลาดคริปโต และ VanEck เชี่ยวชาญทางด้านการออกสินค้าเกี่ยวกับการลงทุนได้
แต่การร่วมงานในผลิตภัณฑ์ Bitcoin ETF ระหว่างทั้ง 2 บริษัทนั้นสิ้นสุดลงเมื่อเดือนกันยายนปี 2019 และได้แยกทางกันในเดือนสิงหาคมปี 2020 ซึ่งทาง SolidX ออกมากล่าวในการแยกทางครั้งนี้ว่า “มีผู้กระทำการผิดสัญญาที่ได้ทำการตกลงกันไว้อย่างตั้งใจ”
และในวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา VanEck ก็ได้ยื่นขอจดทะเบียน Bitcoin ETF กับทางก.ล.ต. อีกด้วย
ซึ่งจากเอกสารที่ทาง SolidX ได้ยื่นต่อศาลนั้นระบุว่า “บริษัท VanEck ได้นำงานและผลิตภัณฑ์ของ SolidX มาแข่งกับทางบริษัท SolidX เอง อีกทั้งงานที่ทาง VanEck ยื่นขอจดทะเบียนนั้นก็สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการลอกเลียนแบบ เพราะโครงสร้างของ Bitcoin ETF ที่ทาง VanEck ยื่นขอจดทะเบียนไม่ได้มีความแตกต่างจากงานของ SolidX ที่กำลังจะยื่นขอใบอนุญาตกับทางก.ล.ต. เลยแม้แต่น้อย”
นอกจากนี้ในเอกสารดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “VanEck นั้นได้เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันกับทาง SolidX โดยตรงภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากการยกเลิกสัญญาร่วมงานกัน โดยระหว่างการร่วมงานกันนั้นในสัญญาได้ระบุไว้ว่า ห้ามไม่ให้ VanEck ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือสินค้า ที่อาจกระทบต่อธุรกิจของ SolidX อยู่ด้วย”
ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา VanEck ได้เปิดตัวตราสารหนี้ระยะยาวที่อยู่บนพื้นฐานของราคา Bitcoin ในตลาดการลงทุน Deutsche Börse Xetra ประเทศเยอรมนีอีกด้วย
ท้ายที่สุดนี้ SolidX ได้กล่าวว่า เดิมทีได้ร่วมงานกับทาง VanEck เพราะชื่อแบรนด์ที่โด่งดังและความน่าเชื่อถือในฐานะบริษัทที่จะสามารถออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่าง ETF ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังได้กล่าวเตือนว่าบริษัท VanEck นั้นแทบไม่มีประสบการณ์ในตลาด Bitcoin และคริปโตเลยแม้แต่น้อย จึงยินดีที่จะให้ SolidX เข้ามาร่วมงานด้วย
ที่มา: cointelegraph