<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 เหตุผลที่คุณควรมี Ethereum สักจำนวนหนึ่งในตอนนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ว่าราคา Ethereum นั้นจะร่วงลดลงอย่างรุนแรงแตะระดับ 900 ดอลลาร์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เนื่องจากการปรับฐานครั้งใหญ่ของราคา Bitcoin แต่ในที่สุดมันก็สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจอีกครั้ง 

จากกราฟ ETH/USD บนเว็บไซต์ Tradingview เราได้เห็นแล้วว่าราคา Ethereum นั้นมีการปรับฐานราคาร่วงลงอย่างรุนแรงในวันที่ 11 มกราคม โดยร่วงจากระดับ 1,350 ดอลลาร์เหลือเพียง 900 ดอลลาร์ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุด นับจากเดือนมีนาคม 2020

อย่างไรก็ตามในช่วงเมื่อวานนี้ราคา Ethereum เริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง และนี่เป็นสิ่งที่บ่งชี้ให้เห็นแล้วว่านักลงทุนในตลาดยังคงมีความเชื่อมั่นในตัวของเหรียญ Ethereum แต่คำถามที่หลายคนกำลังสงสัยอยู่ในช่วงเวลานี้ก็คือ เราควรถือเหรียญ ETH ต่อไปหรือไม่ และอะไรคือปัจจัยที่จะส่งผลทำให้ราคาของ Ethereum นั้นเพิ่มขึ้นในระยะสั้น โดยในบทความนี้เราจะมานำเสนอเหตุผลดีดีที่คุณควรถือเหรียญ ETH สักจำนวนหนึ่งในตอนนี้

การมาของตลาด Ethereum futures บน CME Future

การมาของตลาด Ethereum futures บนแพลทฟอร์มเทรดฟิวเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ CME นั้นอาจดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันให้เข้ามาในตลาดได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้การเติบโตของตลาด DeFi ที่เป็นรากฐานหลักของ DApps บนแพลทฟอร์ม Ethereum นั้นยังอาจส่งผลทำให้ราคาของ ETH พุ่งแตะระดับราคาที่ 10,000 ดอลลาร์ (3 แสนบาท) เป็นอย่างต่ำอีกด้วย อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญ

โดยอ้างอิงจากนักวิเคราะห์ชื่อดัง Lark Davis นั้น เขากล่าวว่าการมาของตลาด ETH Futures นั้นจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาตลาดคริปโต ไม่ต่างอะไรจากการอนุมัติของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้ธนาคารในประเทศสามารถทำธุรกรรมเกี่ยวกับเหรียญ stablecoin ได้ และนั่นจะส่งผลทำให้ราคาของ ETH นั้นพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

“Ethereum Futures นั้นกำลังมาแล้ว Grayscale เริ่มที่จะมีนักลงทุน ETH ชุดแรก ๆ เข้ามาแล้ว, OCC ไฟเขียวให้ธนาคารใช้ stablecoin ได้, EIP 1559, layer 2, DeFi… ใช่แล้ว ราคา ETH นั้นจะวิ่งไปอย่างน้อยที่ 10,000 ดอลลาร์”

นอกจากนี้หากเราลองย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2017 ก่อนวันเปิดตัว Bitcoin Future ของ CME เราจะเห็นได้ว่าราคา Bitcoin นั้นได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น โดยพุ่งขึ้นจากระดับ 5,000 ดอลลาร์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ไปแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 19,640 ดอลลาร์ ดังนั้นหลายคนจึงคาดหวังว่าการเปิดตัว Ethereum Future ของ CME ที่มีกำหนดจะเกิดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้จะเป็นตัวจุดฉนวนให้ราคาของ ETH นั้นพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ETH 2.0

ก่อนหน้านี้เราได้เห็นกันแล้วว่าการมาของ ETH 2.0 ที่ส่งผลทำให้ราคา Ethereum นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงแค่ไหน ซึ่งว่าถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของระบบ proof of stake ของ Ethereum ที่จะทำงานควบคู่กับระบบที่ต้องใช้นักขุดอย่าง proof of stake 

โดยภายหลังจากการเปิดตัว Genesis Block หรือ block เก็บข้อมูลตัวแรกสุดของ Ethereum 2.0 นั้น ราคาของ Ethereum ก็พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ และปัจจุบันก็มีผู้ที่ Stake เหรียญ Ethereum บนเครือข่าย ETH 2.0 ไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 2,508,354 ETH หรือคิดเป็น 2% ของอุปทานเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ

นั่นหมายความว่าหากมีผู้ที่ Stake  เหรียญ Ethereum เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลาดก็จะยิ่งขาดแคลนและส่งผลทำให้ราคาของเหรียญนั้นเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ นั้นยังแสดงให้เห็นด้วยว่าเหรียญ ETH ที่อยู่บนเว็บเทรดคริปโตส่วนใหญ่นั้นได้ลดลงไปถึง 42.5% ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาณที่บอกใบ้เป็นนัย ๆ แล้วว่าช่วงขาขึ้นครั้งใหญ่ของ ETH กำลังจะมาถึงแล้ว

ระดับ ATH ของ ETH ที่ยังไปไม่ถึง

เป็นที่น่าสังเกตว่าตอนนี้ราคาของ Ethereum นั้นอยู่ใกล้กับระดับ ATH เป็นอย่างมาก และหลายคนเชื่อว่าในที่สุด Ethereum จะสามารถเบรคทะลุทำลายจุดสูงสุดตลอดกาลเดิมได้อย่างแน่นอน 

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนหน้านี้ในวันที่ 16 ธันวาคม เราจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ราคา Bitcoin พุ่งทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลเดิมที่ระดับ 20,000 ดอลาร์ไปนั้น ราคาก็ได้พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องโดยมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 115% เลยทีเดียว ดังนั้นหลายคนจึงเชื่อว่าหากราคา Ethereum สามารถเบรคทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลเดิมขึ้นไปได้ ราคาของมันอาจมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอีกราว ๆ 100% เช่นเดียวกับราคา Bitcoin ในปัจจุบัน