แม้ว่าก่อนหน้านี้ราคา Bitcoin นั้นจะร่วงทะลุ 10,000 ดอลลาร์ลงไป แต่ก็สามารถที่จะฟื้นตัวมาทำจุดสูงสุดใหม่ไปแล้วที่ราคา 42,000 ดอลลาร์ได้เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ข้อมูลการวิเคราะห์ในอดีตนั้นกำลังเผยให้เห็นว่าราคา BTC นั้นอาจพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ตัวชี้วัดดังกล่าวนั้นยังบ่งบอกด้วยว่าการร่วงเพื่อปรับฐานของราคานั้นกำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว และราคามีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้นต่ออีกด้วย
การปรับฐานของราคา Bitcoin กำลังจะจบลง?
หลังจากที่ราคา BTC นั้นได้เคลื่อนไหวไปแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราได้เห็นแรงเทขายที่พยายามกดตลาดให้ราคานั้นร่วงลงมาในระดับ 30,000 ดอลลารื
ซึ่งการร่วงลงของราคาที่มากกว่า 10,000 ดอลลาร์นี้ส่งผลทำให้มีการตั้งคำถามขึ้นมาว่าขาขึ้นนั้นได้จบลงแล้วหรือไม่ และ BTC นั้นกำลังจะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2018 ทั้งปี หลังจากราคาทำจุด ATH ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Glassnode นั้นได้ออกมาปัดความเชื่อดังกล่าว พร้อมเผยตัวชี้วัดที่ชื่อว่า Spent Output Profit Ratio โดยจะเป็นการจำเอามูลค่าที่หน่วยเป็นดอลลาร์มาหารด้วยตัวเลขการสร้าง spent output ซึ่งมันใช้เพื่อตรวจหาสถานะการปรับฐานของราคาท่ามกลางขาขึ้นของราคา Bitcoin
หลังจากที่เราได้เห็นการร่วงลงของราคาอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวนั้นก็ได้ร่วงลงไปถึงระดับเกือบถึง neutral ซึ่งบ่งบอกว่าการปรับฐานนั้นใกล้จะจบลงแล้วนั่นเอง
ราคา Bitcoin อาจจะกลับมาพุ่งขึ้นถึง 900%?
หากการปรับฐานของราคานั้นจบลง ทาง Glassnode ยังได้คาดการณ์ว่าเราอาจจะได้เห็นการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin อย่างรุนแรง หากอ้างอิงจากตัวชี้วัดที่ชื่อว่า Net Unrealized Profit/Loss (NUPL)
หากนำเอาราคานั้นมาวิเคราะห์เมื่อตอนที่ UTXO (unspent transaction output) นั้นถูกสร้างขึ้นมา VS กับราคาปัจจุบันของเหรียญ ตัวชี้วัดดังกล่าวนั้นจะช่วยตรวจดูให้ว่าเหรียญที่อยู่ใน UTXO ดังกล่าวนั้นอยู่ในสถานะกำไรหรือว่าขาดทุน
หรือหากจะให้กล่าวในอีกแง่หนึ่งแล้ว ตัวชี้วัดดังกล่าวนั้นจะช่วยเปรียบเทียบ unrealized profit และ unrealized loss ของผู้ที่ถือเหรียญอยู่ เพื่อทำการตัดสินว่าเครือข่ายทั้งหมดในตอนนี้อยู่ในสถานะขาดทุนหรือว่ากำไร
Glassnode ได้ทำการวัดว่าระดับ -2 นั้นถือเป็นระดับการสูญเสียที่มีนัยสำคัญ ไปจนถึง +1 ที่บ่งบอกว่ามันมันอยู่ระดับที่ Euphoria หรือกำไรอย่างมีความสุข โดยเขากล่าวว่าตอนนี้สภาพตลาดเกือบทั้งหมดนั้นอยู่ในสถานะที่ยังกำไรอยู่ โดยทาง Glassnode ยังเสริมอีกด้วยว่าหากตัวชี้วัดดังกล่าวนั้นพุ่งไปอยู่เหนือ 0.75 แล้วล่ะก็ มันจะเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า Euphoria และมักจะตามมาด้วยการร่วงลงมาเพื่อปรับฐานเสมอ
กราฟดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นว่าราคา Bitcoin นั้นได้ร่วงลงมาทันทีหลังจากที่ตัวชี้วัด NUPL นั้นได้พุ่งไปอยู่เหนือ 0.75 แต่อย่างไรก็ตามราคาของมันนั้นไม่สามารถที่จะผ่านระดับ 42,000 ดอลลาร์ไปได้จนร่วงลงมาอย่างรุนแรง และบ่งบอกอีกด้วยว่ามันอาจจะกำลังเกิดขึ้นซ้ำรอยประวัติศาสตร์
ครั้งก่อนหน้านี้ที่ตัวชี้วัด NUPL วิ่งมาแตะระดับดังกล่าวตอนขาขึ้นปี 2017 ที่ผ่านมา “ราคาของเหรียญ Bitcoin ก็ได้พุ่งต่อหลังจากนั้นถึง 900% ก่อนที่จะวิ่งไปแตะจุดสูงสุด” กล่าวโดย Glassnode และหากราคานั้นพุ่งขึ้นจากจุดนี้แล้ว เราอาจจะได้เห็นระดับราคาที่ 300,000 ดอลลาร์ก็เป็นได้