ภายหลังจากที่เว็บกระดานเทรดคริปโตอันดับต้น ๆ ในไทยอย่าง Bitkub กลับมาเปิดให้ใช้บริการใหม่ได้ไม่นานนัก และมีการปิดรับลูกค้าใหม่เพิ่ม ดูเหมือนว่าล่าสุดนั้นทาง ก.ล.ต. ไทยได้ออกมาสั่งให้ทางพวกเขานั้นระงับการเปิดรับลูกค้าใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว
โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์หลักของทาง กลต นั้น พวกเขาได้มีการระบุว่า
“คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) ระงับการเปิดรับลูกค้าใหม่จนกว่าบริษัทจะแก้ไขระบบงานให้มั่นใจได้ว่าสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัทยังไม่สามารถแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อปริมาณธุรกิจ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีหนังสือไปยัง Bitkub ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ให้ส่งแผนการแก้ไขและดำเนินการแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน นับจากวันที่ 18 มกราคม 2564 ตามมติของคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยบริษัทได้แก้ไขระบบงานและส่งแผนการแก้ไขมายัง ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2564 แล้วนั้น
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทยังไม่สามารถแก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้ระบบงานต่าง ๆ มีความเหมาะสมเพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จึงมีมติอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ให้บริษัทระงับการเปิดรับลูกค้าใหม่ รวมถึงลูกค้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการยืนยันหรือพิสูจน์ตัวตนเพื่อเปิดบัญชีจนกว่าบริษัทจะแสดงให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. มั่นใจได้ว่าระบบงานต่าง ๆ และบุคลากร มีความเหมาะสมและเพียงพอตามลักษณะ ขนาด และปริมาณของธุรกิจ เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้”
- จัดให้มีระบบการซื้อขายที่มีความเพียงพอเหมาะสมกับปริมาณลูกค้าและธุรกรรมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตตามแผนธุรกิจ โดยแสดงนโยบายการรับลูกค้าที่สอดคล้องกับความสามารถของระบบงาน และแสดงรายงานการทดสอบด้านประสิทธิภาพและความคงทน (load test and stress test) ของระบบ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ประเมินอิสระที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ
- จัดให้มีระบบให้ลูกค้าสามารถถอนทรัพย์สินได้ทันทีหากเกิดจากเหตุระบบซื้อขายขัดข้อง โดยแสดงผลการทดสอบการทำงานของระบบหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
- จัดให้มีระบบการรับลูกค้า การยืนยันและพิสูจน์ตัวตนของลูกค้า (KYC) ที่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของลูกค้าหรือผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ โดยปรับปรุงขั้นตอนการรับลูกค้าให้มีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า รวมทั้งแสดงหลักฐานเมื่อมีการปรับปรุงขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ให้แสดงแผนในการนำขั้นตอนที่ได้ปรับปรุงดังกล่าวไปปรับใช้กับลูกค้าที่มีในปัจจุบันให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
- จัดให้มีแผนการจัดการในการติดต่อและให้บริการ และแผนการแก้ไขข้อร้องเรียน เพื่อให้สามารถจัดการข้อร้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีแผนการชดเชยความเสียหายที่บริษัทจะมีต่อลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้น โดยแสดงรายละเอียดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการชดเชยความเสียหายที่บริษัทจะชดเชยต่อลูกค้า การจัดให้มีการสื่อสารรายละเอียดดังกล่าวให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่จะได้รับการชดเชยความเสียหายตามแผนดังกล่าว
- จัดให้มีระบบที่สามารถรองรับการประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan : BCP) รองรับเหตุฉุกเฉินในกรณีต่าง ๆ โดยต้องเป็นแผนที่มีความชัดเจนและสามารถนำมาปฏิบัติได้
“ทั้งนี้ ขอให้บริษัทส่งเอกสารหลักฐาน คำชี้แจงข้อมูล และผลการทดสอบเพื่อแสดงถึงความเชื่อมั่นในประเด็นดังกล่าวข้างต้น ให้ ก.ล.ต. ได้ทันทีเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาให้บริษัทเปิดรับลูกค้าใหม่ได้ต่อไป”
ภายหลังจากที่มีประกาศดังกล่าวออกมานั้น นายสกลกรย์ สระกวี หรือผู้ร่วมก่อตั้ง Bitkub ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าทางพวกเขานั้น “น้อมรับ” มติดังกล่าว และจะปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น