ประเด็นสำคัญ
- ความเสี่ยงที่ร้ายแรงต่อ bitcoin อาจมาจากการ “สูญเสียความเชื่อมั่นอย่างกะทันหัน” ใน Stablecoin ของ Tether (USDT)
- เนื่องจากการซื้อขาย bitcoin ส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่าน USDT
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan เผยถึงรายงานที่กล่าวถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับ bitcoin อาจมาจากการสูญเสียความเชื่อมั่นใน Tether (USDT) ที่เป็น stablecoin โดยรายงานหนึ่งที่มีการตีพิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดี นักวิเคราะห์จาก JPMorgan นำโดย Joyce Chang ประธานฝ่ายวิจัยระดับโลกได้เผยว่า หาก USDT มีความคืบหน้าบางอย่างที่ดูไม่ดี ก็อาจส่งผลกระทบต่อราคา bitcoin ด้วย
นอกจากนี้การสูญเสียความเชื่อมั่นอย่างกะทันหันใน USDT อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องอย่างรุนแรงต่อตลาด Bitcoin ซึ่งทำให้สูญเสียการเข้าถึงแหล่งอุปสงค์และสภาพคล่องที่ใหญ่ที่สุด” นักวิเคราะห์กล่าว
The Block ได้รายงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า “การซื้อขาย bitcoin ส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่าน USDT” นอกจากนี้นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ได้อ้างถึงข้อมูลจาก NYDIG ว่า ประมาณ 50-60% ของการซื้อขาย bitcoin เกิดขึ้นผ่าน USDT นับตั้งแต่ปี 2019
USDT ออกโดย Tether และเป็นการผูกค่าค่าเงินไว้กับดอลลาห์สหรัฐแบบ 1:1 นักวิเคราะห์เชื่อว่า การที่ Tether ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและเปิดเผยข้อมูลที่เข้มงวดเหมือนธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม จึงไม่มีอะไรเหมือนกับการรับประกันเงินฝาก นอกจากนี้ USDT ยังมีความเสี่ยง tail risk ต่อ bitcoin อีกด้วย
ความเสี่ยงแบบ tail risk คือ ความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากหรือเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ และทำให้สินทรัพย์ร่วงลงอย่างหนัก เป็นรูปแบบของความเสี่ยงด้านพอร์ตการลงทุนที่เกิดขึ้นเมื่อการลงทุนมีการเคลื่อนไหวของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมากกว่าสาม เหนือกว่าการแจกแจงแบบปกติ (normal distribution)
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan กล่าวว่า Tether อ้างว่ามีการสำรองสินทรัพย์เป็นเงินสดและรายการเทียบเท่าเท่ากับหนี้สินคงค้าง “แต่กลับไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างอิสระและการยื่นฟ้องต่อศาลว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องสำรองเงินดังกล่าวเต็มจำนวน”
“ด้วยเหตุนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในการใช้ USDT ซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ สภาพคล่องที่ถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรงต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัล รวมไปถึงการซื้อขายแบบ HFT (high-frequency trading) ที่มีส่วนต่อสภาพคล่องอย่างมาก “
โดยรวมแล้วทีมวิจัยระดับโลกของ JPMorgan เชื่อว่า bitcoin เป็น “การแสดงด้านเศรษฐกิจ” แต่อยู่ที่นี่เพื่อเป็นสกุลเงิน “ทางเลือก” นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังไม่แน่ใจว่าสินทรัพย์คริปโตให้ประโยชน์ในการกระจายความเสี่ยงกับสินทรัพย์เช่นเดียวกับตราสารทุนหรือไม่
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังกล่าวว่า “สินทรัพย์คริปโตยังคงอยู่อันดับท้ายสุดในการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดในตลาดหุ้น โดยประโยชน์ในด้านการกระจายการลงทุน (diversification) ยังเป็นที่น่าสงสัย เนื่องจากราคาที่สูงกว่าต้นทุนการผลิต ในขณะที่ความสัมพันธ์ (correlation) กับสินทรัพย์วัฏจักรอื่น ๆกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเป็นการครอบครองคริปโตกลายเป็นกระแสหลักไปแล้ว”