จากการที่ราคาของสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ปรับตัวลง อดีตผู้บริหารจาก Goldman Sachs และ Raoul Pal ซีอีโอของ Real Vision เปิดเผยว่า เขารู้สึกโล่งใจเมื่อราคาลดลงและเปลี่ยนเป็น“ buy the dip mode” หรือการซื้อเมื่อย่อตัวนั่นเอง โดยเขากล่าวว่า เดือนมีนาคมเคยเป็นเดือนที่อ่อนแอในอดีตสำหรับสินทรัพย์คริปโต
อย่างไรก็ตามใน Twitter Raoul Pal เปิดเผยว่า เขาไม่แน่ใจว่านี่เป็นการปรับฐานครั้งใหญ่หรือว่าเป็นแค่การหลอกขายให้ตกใจ
คำพูดของนักวิเคราะห์มาจากการที่ราคาของสินทรัพย์คริปโตส่วนใหญ่ดิ่งลงทั้งกระดาน โดยข้อมูลจาก CryptoCompare แสดงให้เห็นว่า bitcoin ได้ขยับจาก 54,000 ดอลลาร์ลงสู่ 46,800 ดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาในขณะที่ Ether ของ Ethereum ลดลงจาก 1,800 ดอลลาร์เหลือ 1,450 ดอลลาร์ในช่วงเวลาที่รายงาน
สินทรัพย์คริปโตส่วนใหญ่ซื้อขายในแดนลบ โดยเหรียญ BNB จาก Binance ที่มีการเพิ่มขึ้นมากกว่า 500% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ตอนนี้ได้ลดลง 20% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ราคาได้ทำจุดสูงสุดตลอดกาล (all-time high) เหนือ 340 ดอลลาห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและลดลงสู่ 200 ดอลลาห์
ข้อมูลจาก TradingView แสดงให้เห็นว่า มูลค่าของตลาดคริปโตได้หายไปกว่า 300 พันล้านดอลลาห์จากแรงขายทำกำไร โดยมูลค่าตลาด (market capitalization) ได้ลดลงจาก 1.7 พันล้านดอลลาห์สู่ 1.37 พันล้านดอลลาห์ขณะที่เขียน
ในทวีตอื่น ๆ Raoul Pal เปิดเผยว่า เขามีมุมมองที่เป็นขาขึ้นต่อต่อสกุลเงินดิจิทัลโดยทั่วไป ก่อนที่ตลาดคริปโตจะเจอแรงเทขายขาย Pal กล่าวว่านี่เป็น “การปฏิวัติ bitcoin แต่มีการปฏิวัติสินทรัพย์ดิจิทัลที่เหนือกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ”
จากคำพูดของเขา การปฏิวัติสินทรัพย์คริปโตที่เกิดขึ้นใน “ยุคแรก ๆ เช่น BTC ในปี 2013” เกิดขึ้นพร้อมกับโอกาสที่น่าตื่นเต้นในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เขากล่าวเสริมว่า การปฏิวัติครั้งต่อไปจะเป็น“ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของการปฏิวัติอินเทอร์เน็ตและมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น” นักวิเคราะห์เตือนด้วยว่าจะมีวัฏจักรช่วงที่เฟื่องฟูและคึกคัก
ในอดีต Pal เคยโต้แย้งว่า ราคา ETH อาจไปถึง 20,000 ดอลลาร์ในรอบนี้ โดยเขากล่าวว่า “ETH = BTC” ไม่ว่านักลงทุนจะชอบหรือไม่ก็ตาม เขาเริ่มชี้ไปที่โมเดลของเขาสร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงกฎของ Metcalfe ในเครือข่าย BTC โดยใช้ที่อยู่ active address และราคาของสกุลเงินดิจิทัลตลอดจนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลา
การวิจัยของเขาบอกเป็นนัยว่า เช่นเดียวกับ BTC ราคา ETH จะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ตลอดเวลาใกล้ 20,000 ดอลลาร์ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะตลาดหมี