<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักพัฒนาเครือข่าย Blockchain ของ Ethereum ให้โอนเร็วค่าธรรมเนียมต่ำเปิดระดมทุนรอบใหม่แล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เนื่องจากความต้องการ Ethereum ที่มีเพิ่มมากขึ้นถึงขั้นวิกฤต จนส่งผลให้เครือข่ายเกิดความแออัด ตามมาด้วยค่าธรรมเนียมที่แพงมากจนเกินไป  นักพัฒนา ETH Layer 2.0 จึงได้เปิดให้มีการระดมทุนเพิ่มเติมเพื่อนำเอาโซลูชันการปรับขนาดมาใช้งานจริงบนเครือข่าย Ethereum 

การระดมทุนรอบซีรีส์ A สำหรับโปรโตคอลการปรับขนาด Layer 2.0 นามว่า zkSync ของ Matter Labs นั้นมีเป้าหมายที่จะนำเอาภาษาสัญญา Smart contract ‘Solidity’ มาใช้ในแพลตฟอร์มพวกเขา ก่อนที่จะนำไปใช้งานจริงบนเครือข่าย Ethereum 

การระดมทุนรอบนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมคริปโตและบริษัทด้านความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต รวมถึงบริษัทต่าง ๆ เช่น Union Square Ventures (USV), Cloudflare, Firebase, Twilio, MongoDB และ Coinbase

Matter Labs ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Layer 2.0 เป็นครั้งแรกในช่วงเดือนธันวาคม 2019า หลังจากที่บริษัทได้รับเงินทุนที่ไม่เปิดเผยจำนวนจากบริษัทพาร์ทเนอร์

Layer 2.0 เริ่มเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ 

zkSync มีจุดมุ่งหมายในการเพิ่มความเร็วให้กับการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum โดยใช้การรวบรวมข้อมูลเพื่อทำธุรกรรมแบบกลุ่มและประมวลผลธุรกรรมจาก root chain นอกจากนี้โปรโตคอลยังมีการรับประกันความปลอดภัยระดับเทียบเท่ากับสัญญา Smart contract บน Layer 1 อีกด้วย

บริษัทกล่าวว่าระบบนิเวศ zkSync จะสามารถเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถในการผสมผสานข้อดีของเครือข่ายเข้าไว้ด้วยกัน เหมือนกับเราได้เห็นในโปรโตคอล Defi ชั้นนำอย่างเช่น Aave, Balancer และ Curve ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ 

zkSync ได้มีการประมวลผลธุรกรรมไปแล้วกว่า 1.1 ล้านรายการและได้รวมระบบเข้ากับ dApps และแพลตฟอร์มเป็นจำนวนมาก รวมถึงโครงการชื่อดังมากมายเช่น Golem, Numio, StablePay และ Storj

นอกจากนี้ Matter Labs ยังได้มองเห็นโอกาสในการรวมเครือข่ายเข้ากับกระเป๋าเงิน Wallet บนกระดานแลกเปลี่ยนชั้นนำต่าง ๆ เช่น Coinbaseและ Huobi  โดยนักพัฒนากล่าวเสริมว่า สิ่งนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับช่องทางการชำระเงินบน Ethereum

“ ผู้ใช้ทุกคนจะสามารถสร้างและเติมเงินเข้าไปในบัญชีได้โดยตรงจากกระเป๋าเงินหรือกระดานแลกเปลี่ยนต่าง ๆ (เช่น Coinbase, Huobi, Binance, Ripio หรือ Moonpay) โดยไม่ต้องทำธุรกรรมผ่าน L1 แม้แต่รายการเดียว”

เงินระดมทุนที่ได้รับมา นับตั้งแต่รอบ seed round บริษัทจะนำไปเอาใช้ในการพัฒนาสัญญา Smart contract ที่สมบูรณ์แบบพร้อมกับนำเอา Solidity มาสู่แพลตฟอร์ม ​​zkSync ผ่านภาษาการเขียนโปรแกรม Zinc ของตัวเอง โดยบล็อกโพสต์ระบุว่า เครือข่าย testnet สำหรับสัญญา Smart contract บน zkSync จะพร้อมเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าสิ่งนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาบนเครือข่าย Ethereum ได้จริง ๆ หรือไม่