ผลิตภัณฑ์กองทุนด้านการลงทุน Grayscale Bitcoin Trust นั้นดูเหมือนว่าจะมีราคาที่ถูกลงเรื่อย ๆ หากเทียบเท่ากับ Bitcoin (BTC) ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ Grayscale นั้นกำลังเริ่มตกที่นั่งลำบาก
หากนับตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมานั้น Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้นักลงทุนนั้นสามารถเข้าถึง Bitcoin (BTC) ได้ผ่านผลิตภัณฑ์ด้านกองทุนที่มี BTC มาค้ำไว้ แต่อย่างไรก็ตามความสามารถในการแลกเปลี่ยนและสภาพคล่องของกองทุนดังกล่าวนั้นยังแตกต่างจากกองทุน Exchange Traded Fund (ETF) อยู่มาก
กอง Trust นั้นมีโครงสร้างที่เหมือนกับบริษัทในแง่กฎหมาย และเป็นกองทุนปลายปิดที่สามารถถูกนำไปขายให้เฉพาะนักลงทุนที่ถูก accredit แล้วเท่านั้น นั่นหมายความว่าจำนวนหุ้นในกองทรัสต์มีนั้นจึงมีจำนวนจำกัด และนักลงทุนรายย่อยจะสามารถลงทุนมันได้ผ่านตลาด secondary market เท่านั้น นอกจากนี้สัดส่วนหุ้นใน GBTC นัน้ไม่สามารถถูกนำออกมาแลกเป็น Bitcoin (BTC) จริง ๆ ได้อีกด้วย
โดยปกติแล้ว GBTC นั้นมักจะถูกซื้อขายกันด้วยอัตราพรีเมียมที่สูงกว่าตลาด Bitcoin ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดนั้นมีความต้องการโดยนักลงทุนรายย่อยสูง ซึ่งนักลงทุนสถาบันนั้นมักจะทำการซื้อหุ้นจาก Grayscale โดยตรง และนำไปขายให้กับรายย่อยในราคาที่สูงกว่าเพื่อทำกำไร หลังจากที่ lock ไว้เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว
ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมานั้น GBTC ถูกซื้อขายด้วยอัตราพรีเมียมจนกระทั่งค่า Net Asset Value (NAV) พุ่งจาก 5% ไป 40% อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสถานการณ์นั้นจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ หากนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตอนที่ Bitcoin ETF ในประเทศแคนาดานั้นถูกเปิดตัวขึ้น และส่งผลทำให้เม็ดเงินนั้นไหลออกจากตลาด GBTC ไปเยอะมาก
ผลิตภัณฑ์กองทุน ETF นั้นมีราคาที่ถูกกว่า และมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า หากเทียบกับกองทรัสต์ ยิ่งไปกว่านั้นแล้วมันยังไม่จำเป็นต้องมีการ lock-up อีกด้วย และนักลงทุนรายย่อยนั้นสามารถที่จะเข้าถึงมันได้ในราคา par ดังนั้นการเกิดขึ้นใหม่ของผลิตภัณฑ์นี้ส่งผลทำให้ผลิตภัณฑ์ GBTC ของ Grayscale นั้นต้องเจอศึกหนัก
เมื่อวานนี้นาย Barry Silbert หรือ CEO ของ Grayscale นั้นได้ออกมาประกาศว่าเขานั้นได้ทำการ Short Dogecoin ผ่านเว็บไซต์ FTX แล้ว นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ผู้คนหันมาถือ BTC แทน DOGE อีกด้วย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตอนนี้เขาไม่ชอบให้เม็ดเงินไหลออกจากตลาด Bitcoin ไปเข้าตลาดเหรียญอื่น ๆ มากนัก