<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ยอดเหรียญที่ถูก Stake ใน ETH 2.0 แตะ 100,000 ETH

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โพสต์ล่าสุดจาก TemptingBeef บน CryptoQuant ได้ยืนยันว่าเมื่อวานมีจำนวนเหรียญ ETH ที่ถูกนำไป Stake ไว้ในสัญญาการฝาก ETH 2.0 เกิน 100,000 ETH แล้ว ซึ่งหมายความว่า ETH ทั้งหมดที่ถูก Stake ไว้ตอนนี้มีจำนวนมากกว่า 5% ของ Ethereum ที่หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ETH 2.0 อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการมานานหลายปีแล้ว ซึ่งมีความหวังว่าโปรโตคอล Proof-of-Stake ของ Ethereum จะเปิดตัวในปี 2020 แต่เนื่องจากนักพัฒนาต้องการให้แน่ใจว่าเครือข่ายนั้นมีความปลอดภัยก่อนจะเปิดตัว ส่งผลให้การเปิดตัวดูจะล่าช้าออกไป

ตามข้อมูลจาก Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้อธิบายว่าปัญหาที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดที่ทำให้ ETH 2.0 เกิดความล่าช้านั้น ไม่ใช่ปัญหาทางเทคนิคใด ๆ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับมนุษย์ โดย Buterin ชี้ให้เห็นว่าความขัดแย้งภายในส่งผลให้เกิดความล่าช้าของโปรเจกต์ ซึ่งคาดการณ์ว่าการเปิดตัว ETH 2.0 จะล่าช้าออกไปจนถึงปี 2022 

ETH 2.0 คือการตอบสนองต่อคำวิพากษวิจารณ์ที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับประเด็นการใช้พลังงานของโปรโตคอล Proof-of-Work ที่ใช้งานโดยเหรียญอย่างบิทคอยน์ โดยบล็อกเชนต้องการให้คอมพิวเตอร์ของนักขุดเหรียญแก้สมการที่ซับซ้อนเพื่ออนุมัติการทำธุรกรรม ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังงานในการประมวลผลค่อนข้างสูง

มีการคาดการณ์ว่าปัจจุบันปริมาณพลังงานที่ใช้ในการขุดบิทคอยน์ มากกว่าการใช้พลังงานทั้งปีของประเทศอย่างเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนตินา ส่งผลให้มีการเร่งค้นหาวิธีการที่จะขุดคริปโตเคอร์เรนซีที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม Ethereum 2.0 จะสามารถขจัดปัญหาที่มีอยู่ในเครือข่าย ซึ่งสามารถลดค่าธรรมเนียมของเครือข่ายและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม จากการเพิ่มความสามารถในการเพิ่มการรองรับให้กับเครือข่าย Ethereum นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าจะใช้พลังงานน้อยกว่าโปรโตคอลแบบ Proof-of-Work อย่าง บล็อกเชนของบิทคอยน์ ถึง 99.95%

ซึ่งส่วนแรกของ Ethereum 2.0 คือ Beacon Chain ที่กำลังทำงานอยู่ และอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถ Stake เหรียญเพื่อรับรางวัล โดยการผสานกันระหว่าง Beacon Chain และเครือข่าย Mainnet คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2021 แต่ ณ ตอนนี้เกิดความล่าช้าและยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน

ในส่วนตอนมาจะเกี่ยวกับ Shard chains ที่จะทำให้ Ethereum สามารถประมวลผลการทำธุรกรรมได้มากขึ้น พร้อมกับเพิ่มความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลให้กับเครือข่าย และ Shard chains จะได้รับคุณสมบัติเพิ่มเติมมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

สุดท้ายสำหรับผู้ถือเหรียญ Ethereum สามารถมั่นใจได้ว่าเหรียญของพวกเราจะปลอดภัยจากการย้ายจาก ETH 1.0 เป็น ETH 2.0 ประวัติข้อมูล บันทึกธุรกรรม และความเป็นเจ้าของเหรียญ ETH ทั้งหมดจะยังคงอยู่ เพียงแต่ว่าการทำธุรกรรมใหม่จะมีการดำเนินการในเครือข่ายใหม่