Meitu Inc. บริษัทซอฟต์แวร์แต่งรูปชื่อดังที่จดทะเบียนในฮ่องกง ดูเหมือนว่าจะต้องเจอกับการขาดทุน (impairment loss) กว่า 17.3 ล้านดอลลาห์สหรัฐจากการลงทุนใน Bitcoin
Meitu ซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับแอพฟิลเตอร์ถ่ายรูปได้รายงานว่า ราคา Bitcoin ที่ลดลง ทำให้บริษัทคาดว่าจะรายงานผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ 17.3 ล้านดอลลาห์สหรัฐในการประชุมรายงานผลประกอบการล่าสุด อย่างไรก็ตามทางบริษัท Meitu ได้กำไร 14.7 ล้านดอลลาห์สหรัฐจากการลงทุนใน Ether แต่จะไม่ถือเป็นกำไรจากการตีราคาสินทรัพย์ใหม่ (revaluation gain) เนื่องจากบริษัทถือว่า cryptocurrencies ที่ถือครองนั้น เป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตนและใช้แบบจำลองต้นทุน (cost model) สำหรับการวัดค่าตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
Meitu ได้ถือครอง ethereum ทั้งหมด 31,000 ETH และ Bitcoin อีกประมาณ 941 BTC ในเดือนมีนาคมและเมษายน ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านดอลลาห์สหรัฐในขณะนั้น โดยปัจจุบันมูลค่ายุติธรรม (fair value) ของ ETH ที่ถือครองนั้นอยู่ที่ประมาณ 65.2 ล้านดอลลาห์สหรัฐ และ BTC อยู่ที่ 32.2 ล้านดอลลาห์สหรัฐ โดยมูลค่ารวมลดลงกว่า 2.6%
Meitu ระบุไว้ในประกาศว่า ผลขาดทุนจากการด้อยค่า ( impairment loss) จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือการดำเนินงาน นอกจากนี้บริษัทไม่มีแผนที่จะขายหรือซื้อ crypto เพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากคณะกรรมการมองว่า อุตสาหกรรมบล็อคเชนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และมูลค่าคริปโตเคอร์เรนซี่ยังมีโอกาสแข็งค่าในระยะยาวอีกมาก”
Meitu เป็นบริษัทจีนรายใหญ่เพียงแห่งเดียวที่จดทะเบียนในฮ่องกงและลงทุนโดยตรงในสกุลเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับ บริษัทตะวันตกอย่าง MicroStrategy บริษัทซอฟต์แวร์ และ Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทจีนอื่น ๆ เช่น ผู้ให้บริการเกม The9 และบริษัทลอตเตอรี 500.com ได้เปลี่ยนสายไปทางอุตสาหกรรมการขุด crypto แทน
Yulong Liu หัวหน้าฝ่ายหุ้นส่วนระดับโลกของ Babel Finance กล่าวว่า “ความนิยม Bitcoin อย่างมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับแรงหนุนจากผู้ซื้อสถาบันและองค์กรเป็นหลัก … การมีส่วนร่วมของพวกเขาได้ปูทางให้บริษัทขนาดใหญ่ปฏิบัติตาม”
Liu กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในขณะที่ฉันเห็นแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้มันอาจจะเริ่มช้าลง พื้นฐานของมูลค่า Bitcoin ไม่ได้เปลี่ยนแปลงและยังคงแข็งแกร่ง สาเหตุหลายประการคือ Bitcoin อยู่ภายใต้แรงกดดันจากผู้ออกกฎหมาย เนื่องจากมีประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อม, สังคมและธรรมาภิบาล และข้อกำหนดอย่างเรื่องการต่อต้านการฟอกเงินเข้ามา แต่ อนาคตระยะยาวมันก็ยังดูสดใส สำหรับสินทรัพย์พิเศษอย่าง Bitcoin นี้”
ก่อนหน้านี้ Meitu พยายามเปลี่ยนไปใช้ Blockchain และคริปโตเคอร์เรนซี่เมื่อสามปีที่แล้วช่วงเดือนมกราคมปี 2018 โดยพวกเขาได้มีการเผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์เรื่องบล็อคเชนฉบับแรก เกี่ยวกับการสร้างระบบนิเวศบนบล็อคเชน รวมถึง “Meitu Intelligent Passport” ซึ่งเป็นระบบไฟล์ระบุตัวตนอัจฉริยะที่กระจายอำนาจ ตามการจดจำใบหน้าและเทคโนโลยีบล็อคเชน
ด้วยอานิสงค์จากตลาดกระทิงของ Bitcoin ในปีนี้ ทำให้ราคาหุ้นของ Meitu เพิ่มขึ้นมากถึง 4.11 ดอลลาห์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่มีนาคมปี 2019 อย่างไรก็ตามราคาหุ้นของ Meitu ลดลงนับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา และทำปิดตัวที่ 1.65 ดอลลาห์ฮ่องกงในวันนี้
ที่มา: forkast