<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เสียหาย Crypto ในไทยกว่า 50 รายแห่ร้องเรียน สตช. หลังถูกหลอกลงทุน Binance สูญเงินกว่า 100 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักลงทุนกว่า 50 ราย บุก สตช. ร้องขอพบ “พล.ต.อ.สุวัจน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร. เพื่อขอให้หาหน่วยงานช่วยทำคดี หลังถูกหลอกลงทุนเหรียญคริปโตบนเว็บเทรด Binance สูญเงินร่วมกันกว่า 100 ล้านบาท

กลุ่มผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกลงทุนให้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล “Binance หรือ BNB ” รวมตัวกันกว่า 50 ราย เข้ายื่นหนังสือขอพบ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เพื่อขอให้ช่วยหาหน่วยงานเพื่อทำคดี โดยหนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เฉพาะกลุ่มของตนเองมีประมาณ 45-46 คน มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 46 ล้านบาท โดยตนเองถูกหลอกร่วมลงทุนเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา 

โดยก่อนเริ่มลงทุนได้มีการพูดคุยกับผู้ชักชวนผ่านแอปพลิเคชันหาคู่คล้าย ๆ กับแก๊งโรแมนซ์สแกม และมีการพูดคุยสร้างความสัมพันธ์สร้างให้เกิดความน่าเชื่อถือ ก่อนจะถูกชักชวนร่วมลงทุน Binance ซึ่งเป็นพอร์ตการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลอ้างว่าได้ผลตอบแทนสูง โดยผู้ชักชวนจะส่งลิงก์ให้ผู้เสียหายเข้าไปเทรดสกุลเงินต่างประเทศเหมือนการลงทุนทั่วไป

“ผู้เสียหายแต่ละคนจะได้รับลิงก์ที่แตกต่างกัน ซึ่งผลตอบแทนก็จะแตกต่างกันด้วย โดยจะขึ้นอยู่กับเงินต้นทุนที่ได้ลงทุนไป โดยในตอนแรกได้ผลตอบแทนจริงและได้ผลตอบแทนสูงมาก ต่อมาเมื่อเห็นว่าได้ผลตอบแทนจริงจึงตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ เมื่อติดต่อไปยังผู้ชักชวนลงทุนส่วนใหญ่แต่กลับไม่ได้คำตอบ โดยบางคนสูญเงินสูงถึง 5-6 ล้านบาท และส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังเป็นแก๊งชาวต่างชาติ”

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้มีผู้เสียหายซึ่งตกเป็นเหยื่อในคดีนี้จำนวนมาก โดยได้มีการเดินทางไปร้องหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว แต่ก็จะส่งเรื่องกลับมายังสถานีตำรวจท้องที่ แต่ตำรวจท้องที่ช่วยอะไรไม่ได้ เนื่องจากคดี Binance เป็นคดีใหม่ ยังไม่ค่อยมีตำรวจไทยทำคดีนี้ จึงอาจเป็นคดีที่ยาก จึงได้รวมตัวมากันมาร้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ช่วยตั้งทีมมาช่วยทำคดีดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้มีการรายงานไปแล้วว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้ออกมาแจ้งเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลพร้อมกล่าวโทษ เว็บเทรด Binance ที่เปิดให้บริการโดยผิดกฎหมาย และเตรียมดำเนินคดี ซึ่งเป็นไปได้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นอาจมีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้

โดยทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นั้นได้เตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและการลงทุนหรือทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยควรคำนึงผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับควบคู่กับความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น  

นอกจากนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทจดทะเบียนก็จะต้องมีการพิจารณาขนาดรายการและปฏิบัติตามที่ประกาศกำหนด โดยหากรายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการที่มีนัยสำคัญ มีหลักเกณฑ์กำหนดในเรื่องการได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และเปิดเผยข้อมูลสำคัญ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วย กรรมการ ผู้บริหารและบริษัทจดทะเบียนควรใช้ความระมัดระวังในการเผยแพร่ข่าวหรือข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัท หากไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญ ในประการที่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์หรือการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน อาจเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมที่มีความผิดในเรื่องการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ได้