Stablecoins อย่าง Tether กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเงินทุนที่โอนไปยังธนาคารในสิงคโปร์ และที่อื่น ๆ ท่ามกลางอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
เจ้าหน้าที่ของฮ่องกงได้เปิดเผยถึงโครงการฟอกเงินสกุลเงินดิจิทัลที่อาจคิดเป็นจำนวนเงินมากถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนี่อาจเป็นคดีฟอกเงินสกุลเงินเสมือนครั้งแรกของฮ่องกงเลยทีเดียว
กรมศุลกากรและสรรพสามิตของฮ่องกงกล่าวในแถลงการณ์ว่า ทางการฮ่องกงได้ดำเนินการภายใต้ชื่อรหัสว่า “Coin Breaker เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เพื่อจับกุมองค์กรที่ต้องสงสัยว่ามีการฟอกเงินเมื่อต้นปีนี้
เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชายสี่คน อายุระหว่าง 24 ถึง 33 ปี ซึ่งต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ และสมคบคิดเพื่อจัดการกับสินทรัพย์ที่หามา ซึ่งมาจากการฟอกเงินนั่นเอง
ผู้ต้องสงสัยทั้งสี่คนได้เปิดบัญชีกับธนาคารหลายแห่งในฮ่องกง และ ทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินเสมือน ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุชื่อธนาคารหรือแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
Mark Woo หัวหน้าสำนักงานสืบสวนคดีอาชญากรรมยืนยันในแถลงการณ์ว่า สกุลเงินเสมือนที่เป็น stablecoins อย่าง Tether มีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมครั้งนี้ โดยระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ถึงพฤษภาคมของปีนี้ มีจำนวนเงินที่น่าสงสัยประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินผ่านธนาคาร และการชำระเงินด้วยสกุลคริปโตผิดกฎหมายดังกล่าว
นาย Woo กล่าวตามรายงานของ South China Morning Post ว่า เงินทุนที่น่าสงสัยมากกว่า 60% ถูกโอนผ่านบัญชีธนาคารในสิงคโปร์ และทางการฮ่องกงวางแผนที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้บังคับใช้กฎหมายของสิงคโปร์
ขณะนี้ชายทั้งสี่คนที่ถูกจับได้รับการประกันตัวแล้วและอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม หน่วยงานกล่าวว่า บทลงโทษสูงสุดสำหรับการตัดสินลงโทษคือ การปรับ 5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง และจำคุก 14 ปี
ฮ่องกงไม่ใช่ที่เดียวที่มีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพิ่มขึ้น เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ตำรวจในลอนดอนประกาศว่า พวกเขาได้ยึดเงินดิจิทัลเป็นประวัติการณ์ถึง 294 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 408 ล้านดอลลา์สหรัฐในเวลาไม่ถึงเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนการฟอกเงินที่กำลังดำเนินอยู่
ในขณะเดียวกัน ตำรวจในเกาหลีใต้ระบุเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า พวกเขาได้จับกุมบุคคล 14 คนในคดีฉ้อโกง crypto ที่คาดว่าสร้างความเสียหายให้แก่นักลงทุนกว่า 69,000 ราย รวมเป็นเงินกว่า 3.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ความเสียหายในการหลอกลวง crypto มากถึง 5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา .
ทางการเกาหลีใต้ยังกล่าวอีกว่า ธนาคารจะไม่ถูกตำหนิในคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายแลกเปลี่ยน crypto แต่จะถูกตำหนิหากพวกเขาล้มเหลวในการรายงานการฟอกเงินที่อาจเกิดขึ้น หากไม่มีการรายงาน
จากการศึกษาล่าสุดของ Crypto Head เผยว่า ในสหรัฐอเมริกา อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 300% ทุกปี นับตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2020 ผลการศึกษายังพบว่า อาชญากรรมคริปโตกำลังเพิ่มขึ้นในออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร แม้ว่าจะไม่มากเท่าสหรัฐฯ ก็ตาม อาชญากรรมคริปโตส่วนใหญ่ในสามประเทศเกี่ยวข้องกับ Bitcoin ในขณะที่อันดับสองพบใน Ethereum
อีกรายงานหนึ่งที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม สำนักงานคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกาประมาณการว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันสูญเสียเงินรวมกว่า 80 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ฯ จาก scam ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลระหว่างเดือนตุลาคม 2020 ถึงพฤษภาคม 2021 โดยมีผู้เสียหายเกือบ 7,000 รายในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมีจำนวนความเสียหายเฉลี่ยต่อบุคคลอยู่ที่ 1,900 ดอลลาห์สหรัฐ
ที่มา: forkast