<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำไมการอนุมัติ Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ถึงถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Gary Gensler ประธานของหน่วยงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณสนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อตลาด Bitcoin แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มชุมชนคริปโตจะไม่ได้มีท่าทีที่รู้สึกตื่นเต้นสักเท่าไรนัก ปัจจุบันหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ยังไม่ได้อนุมัติ Bitcoin ETF เลยสักตัวเดียว แม้ว่าจะมีบริษัทเป็นจำนวนมากที่ยื่นขออนุมัติไปแล้วก็ตาม

นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง Scott Melker (หรือที่รู้จักว่า The Wolf Of All Streets) ได้ให้สัมภาษณ์กับ Kitco News เพื่อแสดงจุดยืนของเขาเกี่ยวกับความสำคัญของกองทุน Bitcoin ETF ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นการพัฒนาที่สำคัญในวงการคริปโตที่จะเปิดประตูสู่แหล่งเงินทุนของสถาบันได้ สิ่งนี้จะสร้างความเป็นไปได้สำหรับ bitcoin ที่จะกลายเป็นสินทรัพย์ราคาหกหลัก เขากล่าวเพิ่มเติมว่า:

“การอนุมัติ ETF จะเป็นงานเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin เรากำลังรอการมาของกำแพงเงินทุนขนาดมหึมาที่จะถาโถมเข้ามาอย่างเช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ, การบริจาค, กองทุนความมั่งคั่งอธิปไตย พวกเขาจะเข้ามาเมื่อมี ETF นั่นจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการยอมรับ Bitcoin ของสถาบันอย่างแท้จริง สินทรัพย์ที่มีการควบคุมซึ่งพวกเขาสามารถเชื่อถือได้และได้รับการตรวจสอบโดยผู้จัดการความเสี่ยงและสำนักงาน ก.ล.ต.”

นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์ว่านักลงทุนสถาบันรายใหญ่จะชอบ Bitcoin มากกว่าทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก ETF ได้รับอนุมัติในสหรัฐอเมริกา

ในส่วนของความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายด้านภาษีคริปโตใหม่ล่าสุดนั้น นาย Melker แสดงความเห็นแตกต่างออกไปจากของหลาย ๆ คน โดยเขากล่าวว่าร่างดังกล่าวนี้จะเปรียบเสมือนกับเป็นการโฆษณาให้กับ Bitcoin พร้อมเสริมว่า

“เรากำลังพูดถึงการพิมพ์เงินกว่าล้านล้านเหรียญเพื่อจ่ายให้กับร่างกฎหมาย infrastructure นี้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่เลย <..> ลองมองย้อนไปดูว่าการหยุดพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงแค่ 3-4 วัน แต่มันทำให้ทั่วทั้งโลกต้องหันมาพูดถึงและจับตาดู Bitcoin และวงการคริปโต”

ปัจจุบันประเทศแคนาดามี Bitcoin ETF อยู่สามตัวด้วยกัน ซึ่งต่างจากสหรัฐฯ โดยทั้งหมดได้รับอนุมัติตั้งแต่ต้นปีนี้ หลายคนคาดหวังให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามแนวทางนี้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้ออกกฎหมายของสหรัฐฯ จะดำเนินการไปคนละทิศออกจากที่ผู้คนหวังอย่างสิ้นเชิง