Feisty Doge หรือส่วนหนึ่งของภาพถ่าย Shiba Inu ตัวเดียวกันกับที่ปรากฎบน Dogecoin กลายเป็น NFT ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกด้วยมูลค่ากว่า 85 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนเข้าลงทุนในสินทรัพย์ fractionalized ทำให้ราคาพุ่งสูงกว่า 721%
แม้ว่าการกลับมาของ Doge Mania จะเป็นที่น่าสนใจแต่รอบนี้มาเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ NFT เท่านั้น โดย Feisty Doge NFT ได้กลายเป็น NFT ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกด้วยมูลค่ากว่า 85 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ภาพของเจ้าหมา Shiba Inu ที่น่ารักนี้ได้มีมูลค่าแซงหน้า Beeple’s Everydays: The First 5000 Days ซึ่งขายที่บ้านประมูลของ Christie ในราคา 69.3 ล้านเหรียญเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ภาพ Feisty Doge เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทำกับ Shiba Inu ของชาวญี่ปุ่นชื่อ Kabosu ซึ่งมีชื่อเสียงทางอินเทอร์เน็ตในฐานะสุนัขที่อยู่เบื้องหลังมีม Doge ตัวต้นฉบับซึ่งมันถูกขายเป็น NFT ในเดือนมิถุนายน โดยเสนอราคาสูงถึง 43,279 ดอลลาร์ในขณะนั้น
ทั้งนี้ @Cryptopathic บน Twitter ประกาศเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมว่าเขาได้แยกส่วน Feisty Doge NFT (NFD) ออกเป็น 100 พันล้านโทเคน ซึ่งทำให้ทุกคนสามารถซื้อชิ้นส่วน NFT ของ Feisty Doge ได้ โดยการแยกส่วนนั้นทำให้มีผู้สนใจจำนวนมาก ซึ่งทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นกว่าหลายล้านดอลลาร์ในระยะเวลาที่ผ่านมา โดยหากใครที่สนใจในโปรเจคเหรียญดังกล่าวก็สามารถดูได้ที่เว็บ Sushiswap
จากประกาศของ @Cryptopathic ทำให้ความสนใจที่จะครอบครองชิ้นส่วนของ Feisty Doge NFT กระจายเหมือนไฟป่าไปบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว และในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาราคาของ NFD ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 700% ตามข้อมูลจาก CoinGecko แม้ว่าในช่วงวันที่ผ่านมานั้น NFD จะมีราคาที่คงที่มากขึ้น แต่ก็ยังคงมีมูลค่ากว่า 85 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างอิงจากเวลาที่เขียน
ในขณะที่ผู้ซื้อ NFD ในช่วงแรกนั้นจะได้รับกำไรมหาศาล ซึ่งนั่นก็ตามมาด้วยคำวิจารณ์จากผู้คนทั่วสารทิศที่กล่าวถึงโครงการของ @Cryptopathic ในด้านลบมากขึ้น เช่น กล่าวหาว่าเป็นการหลอกลวง หรือลบสภาพคล่องออกจากคู่เหรียญอย่าง NFD/ETH รวมถึงเป็นการแอบอ้างสร้างกำไรให้ตัวเอง
อย่างไรก็ตามหากไม่คำนึงถึงการถอนสภาพคล่องของ Feisty Doge ในอนาคต นี่เองก็เป็นสิ่งที่แสดงศักยภาพของการแยกชิ้นส่วน NFT ให้เห็น รวมถึงผู้คนได้คาดการณ์ไว้ว่าการแยกชิ้นส่วน NFT นั้นจะได้รับความนิยมและจะแซงหน้า cryptocurrency ในอนาคตในไม่ช้านี้