cryptocurrency สามารถเป็นได้ทั้งเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการฟอกเงินและใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย หรือเป็นได้ทั้งเครื่องมือที่ช่วยนวัตกรรมการเงินโลกให้ไปได้ไกล แต่โชคร้ายที่การใช้งานในลักษณะแรกนั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในระยะยาวทั้งสองอย่างนี้นั้นถูกโยงเข้าด้วยกัน โดยทางรัฐบาลอินเดียนั้นมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะร่างกฎหมายเพื่อทำให้ Cryptocurrency ถูกกฎหมายในปลายปีนี้
นายกรัฐมนตรี Narendra Modi ได้หารือเกี่ยวกับ crypto และได้ข้อสรุปในที่ประชุมว่ารัฐนั้นมีความกังวลอย่างจริงจังว่าปัจจัยที่ทำให้ต่อต้านและกำลังทำร้ายเยาวชนของอินเดียวนั้นคือ “การโฆษณาเกินจริงและการโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิด” เรื่องเหล่านี้ต้องยุติลงการประชุมทบทวนเกิดขึ้นหลังจากปรึกษาหารือกันอย่างละเอียดเป็นเวลาหลายเดือนระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้าน crypto ทั้งในอินเดียวและต่างประเทศเกี่ยวกับ RBI กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย
ในขณะเดียวกันคณะกรรมการรัฐสภากล่าวถึงชะตากรรมของ crypto เป็นครั้งแรกในอินเดียเมื่อวันจันทร์ซึ่งเป็นเอกฉันท์ว่าไม่สามารถห้ามปราม crypto ได้ดังนั้นจึงควรได้รับการควบคุมดูแล
นาง Jayant Sinha อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานนการเชิญผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม crypto จำนวนมากก่อนการประชุม Sinha กล่าวว่า “เราได้เรียกผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั้งภาคส่วนอุตสาหกรรม ผู้ดำเินการแลกเปลี่ยนที่เป็นสมาชิกของ CII รวมถึงนักวิชาการจาก IIM ซึ่งได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับ crypto อย่างละเอียดถี่ถ้วน”
ในขณะที่ฉันทามตินั้นดูเหมือนจะปรากฎว่าควรมีกรอบการกำกับดูแลเพื่อให้การทำงานราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายของอุตสาหกรรม crypto ในประเทศแต่ความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นเอกฉันท์ว่าควรปราศจากการกำกับควบคุม
มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า crypto ที่ไม่ได้รับการควบคุมอาจะเป็นเครื่องมือในการฟอกเงินและเป็นแหล่งเงินทุนของผู้ก่อการร้ายทำให้รัฐบาลรู้สึกประหม่าและวิตกกัลวลต่อ “เทคโนโลยรที่กำลังพัฒนา” ดังนั้นมีความจเป็นที่จะตัดสินใจ “เฝ้าระวัง” และต้องดำเนินการขั้นตอนในเชิงรุกบางอย่าง