ประธานาธิบดี Kassym-Jomart Tokayev ของคาซัคสถาน ได้เสนอให้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่รองรับนักขุด Bitcoin ที่อพยพมาจากประเทศจีน
“เมื่อมองไปในอนาคต เราจะต้องทำการตัดสินใจครั้งใหญ่เกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์” Tokayev กล่าวกับนายธนาคารในระหว่างการประชุมในเมือง Atla เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา
แม้ว่าประเทศจะเป็นผู้ผลิตยูเรเนียมชั้นนำ (41% ของอุปทานของโลกในปี 2020) แต่พลเมืองก็ยังคงไม่สบายใจ หลังจากที่ประเทศได้มีการทดสอบอาวุธปรมาณูภายใต้เครือของสหภาพโซเวียตมาเป็นเวลานานหลายปี
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของคาซัคประเมินว่าประชาชน 1.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากจากการทดสอบนิวเคลียร์ทั้งหมด 110 ครั้ง ในช่วงระหว่างปี 1949 ถึง 1963
การอพยพนักขุด Bitcoin จากประเทศจีนล่าสุด เป็นผลทำให้คาซัคสถานมีความต้องการใช้ไฟฟ้ามากถึง 1,200 เมกะวัตต์ และทำให้ไฟฟ้าดับหลายครั้งทั่วประเทศ
ปัจจุบันอัตราแรงขุดของคาซัคสถานเพิ่มขึ้นกว่าสี่เท่าเป็น 18% หลังจากที่ได้ต้อนรับนักขุด Bitcoin จากประเทศจีนเมื่อช่วงต้นปีนี้
จากข้อมูล IP ของดัชนีการใช้ไฟฟ้า Bitcoin ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์พบว่า ปัจจุบันคาซัคสถานเป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดย 35% ของพลังไฟฟ้าจัดสรรให้กับการขุด Bitcoin
คาซัคสถานเริ่มผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์แล้ว
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน บริษัทพลังงานนิวเคลียร์แห่งชาติ Kazatomprom ได้เปิดตัวโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งจะทำหน้าผลิตแท่งเชื้อเพลิงยูเรเนียมอย่างเป็นทางการ
แม้พลเมืองส่วนใหญ่จะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ประธานาธิบดีโทคาเยฟยังคงกระตือรือร้นที่จะแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนด้วยนิวเคลียร์ โดยเขาเสนอการลงประชามติในประเด็นนี้เมื่อสองปีก่อน
“ตัวผมเองเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพิจารณาถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากคาซัคสถานนั้นต้องการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์” Tokayev กล่าวในฟอรัมธุรกิจของรัสเซียในเดือนกันยายน (ผ่าน Eurasianet)
ในการกล่าวสุนทรพจน์เดียวกัน เขาได้เรียกความหวาดกลัวพลังงานนิวเคลียร์ของคาซัคสถาน ว่าเป็นเรื่องที่ “ไม่สมควร”