“ไม่ต้องสงสัยเลย ผู้คนกลัวกันสุดขีด โดยทั่วไปแล้ว…นี่ถือเป็นโอกาสซื้อ” นักวิเคราะห์ Willy Woo กล่าว
Willy Woo นักวิเคราะห์ Bitcoin (BTC) และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ Hypersheet แสดงให้เห็นว่า ตัวชี้วัดบนเครือข่ายยังส่งสัญญาณถึงตลาดหมี แม้จะสังเกตพบว่าอยู่ในระดับ “กลัวสุดขีด” ก็ตาม
เมื่อพูดถึงพอดแคสต์ What Bitcoin Did ที่จัดโดยคุณ Peter McCormack เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น Woo ได้อ้างถึงตัวชี้วัดที่สำคัญ ๆ เช่น จำนวนผู้ถือครองระยะยาวที่แข็งแกร่ง (กระเป๋าเงินที่ถือ Bitcoin เป็นเวลา 5 เดือนหรือนานกว่านั้น) และอัตราการสะสมที่เพิ่มขึ้น โดยกล่าวว่าตลาดยังไม่เปลี่ยนไปอยู่ในแดนหมี
“ตามโครงสร้างบนเครือข่าย มันยังไม่ใช่ตลาดหมี แม้ว่าผมจะบอกว่าเราอยู่ในระดับกลัวสุดขีด แต่ไม่ต้องสงสัย ผู้คนต่างกลัวกันมาก โดยทั่วไปแล้ว…นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อ”
ในระยะสั้น Woo ตั้งข้อสังเกตว่า ““คุณมักจะเห็นการกลับตัวแบบนี้แต่ไม่รุนแรง” และการกลับตัวลงไปที่ระดับ $20,000 นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากตลาดหมีในปี 2018 ใช้เวลาเพียงสามเดือนเมื่อเทียบกับหนึ่งปี
ราคา Bitcoin ร่วงลดลงประมาณ 44% จากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $69,000 ในเดือนพฤศจิกายน และนักวิเคราะห์อ้างว่า การซื้อขายแบบฟิวเจอร์ของนักลงทุนสถาบันเป็นเหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง
Woo กล่าวว่า การหลั่งไหลเข้ามาของนักเทรดกระแสหลักที่เพิ่มขึ้นและออกจากตลาด Bitcoin futures ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดของ Bitcoin ไปอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งราคาได้ไปมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ “ความเสี่ยงจากนักเทรดมาโครของตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม”
“คุณรู้ไหม เมื่อย้อนกลับไปในปี 2019 ถึง 2020 หากคุณพิจารณาจากข้อมูลบนเครือข่ายที่นักลงทุนทำกัน คุณไม่สามารถเห็นผลกระทบของราคาได้เลย เนื่องจากราคาได้ถูกกำหนดโดยนักเทรดในตลาดฟิวเจอรส์” Woo กล่าว
Woo อ้างว่า นักลงทุนระยะยาวจำนวนมากไม่ได้ขายเหรียญของพวกเขามาเป็นเวลานานกว่า 5 เดือนแล้ว นักเทรดเริ่มหยุดเทเหรียญที่ราคา $40,000 พร้อมทั้งเก็บสะสมเพิ่มเรื่อย ๆ นี่ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในเชิงบวก
“เหรียญส่วนใหญ่นิ่งมานานกว่าห้าเดือนแล้ว พวกเขาไม่ได้ขายขาดทุน พวกเขาจะขายเมื่อมีกำไร และคุณจะเห็นว่าเมื่อใดก็ตามที่มันเบรกทะลุจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มันจะมีช่วงขาขึ้นครั้งใหญ่เกิดขึ้น”
ที่มา : cointelegraph