สำหรับตลาดคริปโตในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความต้องการที่จะขยายไปสู่ตะวันออกกลาง โดยบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี อย่าง Kraken จะทำการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในระดับภูมิภาคในเมืองอาบูดาบีหลังจากได้รับใบอนุญาตให้สามารถเปิดใช้งานแพลตฟอร์มการเทรดซื้อขายคริปโต
จากรายงานในวันที่ 25 เมษายน หลังจากได้รับผ่านกฎระเบียบจาก ADGM (Abu Dhabi Global Market) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านบริการทางการเงินสำหรับการเปิดตัวในประเทศแล้ว แพลตฟอร์ม Kraken จะกลายเป็นแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตเป็นที่แรก ที่ให้บริการด้านซื้อขาย และแลกเปลี่ยนคริปโต UAE Dirhams โดยทางแพลตฟอร์มจะเปิดให้เทรดเหรียญ Bitcoin, Ethereum และ Altcoin อื่น ๆ
ด้าน Curtis Ting กรรมการผู้จัดการประจำยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาของ Kraken กล่าวว่า
“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและไม่น่าเชื่อเลย ที่เราจะสามารถผ่านกฎข้อบังคับของ ADGM (Abu Dhabi Global Market) สำหรับนักลงทุนเพื่อดำเนินการในแพลตฟอร์มเทรดคริปโต นักลงทุนจะสามารถลงทุนด้วยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นอย่าง Dirham (ดีแรมห์) ”
“สำหรับเรา การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงตลาดโลกและสภาพคล่องทั่วโลกเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเราจะทำให้แน่ใจว่านักลงทุนและผู้ค้าในภูมิภาคสามารถเข้าถึงสกุลเงินท้องถิ่นได้” Ting กล่าวเสริม
การเปิดตัวของแพลตฟอร์มของ UAE แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญของตลาดที่ทำกำไรได้
จากข้อมูลของ Kraken การเปิดตัวแพลตฟอร์มของ UAE นั้นเป็นการเป็นก้าวสำคัญในการทำกำไร ตามข้อมูลของ Chainalysis ประเทศในตะวันออกกลางเป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายคริปโตที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยคิดเป็น 7% ของปริมาณการค้าทั่วโลก
ในทุก ๆ ปี UAE มีมูลค่าการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเกือบ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามสถิติ Chainalysis ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 ถึงมิถุนายน 2021 อยู่ในอันดับที่สาม ตามหลังเลบานอน (2.6 หมื่นล้านดอลลาร์) และตุรกี (1.32 ล้านล้านดอลลาร์)
โดยย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมที่ผ่าน แพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง Binance เองก็ได้รับใบอนุญาตให้ทำธุรกิจในอาบูดาบี และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 100 ตำแหน่งในประเทศ เพื่อขยายการดำเนินงานในตะวันออกกลาง
ในขณะเดียวกันแพลตฟอร์ม Bybit ก็ได้รับอำนาจในการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในดูไบ ด้าน แพลตฟอร์ม อย่าง FTX เอวก็ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในดูไบเช่นกัน และมีแนวโน้มที่จะวางแผนเพื่อเปิดสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในเร็ว ๆ นี้