<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Terraform Labs ของ Do Kwon ถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินเป็นจำนวน 164.8 ล้านบาทผ่าน Shell company ในเกาหลี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากการล่มสลายของระบบนิเวศ Terra (LUNA) ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อนักลงทุนทั่วโลก และรวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงต่อผู้ก่อตั้ง Do Kwon นั้น ล่าสุด Terraform Labs กลับก็กำลังกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง โดยคราวนี้มีการกล่าวหาว่าพวกเขามีการฟอกเงินเกิดขึ้น

ตามรายงานเผยว่าทางบริษัทฟอกเงินจำนวน 4.8 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ​ 164.8 ล้านบาทผ่าน shell company ในเกาหลีใต้ โดยมีโครงการที่ซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับ “บริษัทที่ปรึกษาบล็อคเชน K” ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโซล อ้างอิงจากรายงานของ KBS News ของเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม

อดีตผู้พัฒนาที่ Terraform Labs กล่าวให้สัมภาษณ์กับทางหนังสือพิมพ์ว่าอดีตนายจ้างของพวกเขามีความผูกพันกับ “บริษัท K” ซึ่งดำเนินการ “ภายใต้ชื่อที่ยืมมาโดย Terra” ตามที่เจ้าหน้าที่สำนักงานระบุ พื้นที่ทำงานยังใช้ชื่อว่า “Terra” ในแผนผังชั้นของอาคาร แต่ได้รื้อถอนไปแล้วในระหว่างนี้

KBS News ยังกล่าวอีกว่ากรมสรรพากรเกาหลีใต้ได้ค้นพบว่า Terra ได้โอนเงินจำนวน 6 พันล้านวอน (164.8 ล้านบาท) ให้กับบริษัท K และรายงานว่าเป็น “ค่าใช้จ่ายอื่นๆ”

เรื่องราวเริ่มเข้มข้น

อย่างไรก็ตามผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งที่ชอบพูดตรงไปตรงมาที่รู้จักกันในชื่อ FatMan หรือ @FatManTerra ได้ทำการวิจัยและยืนยันว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างบริษัททั้งสองจริง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้แจ้งเบาะแสรายนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างบริษัท K และ Kernel Labs – ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดตั้งขึ้นโดยบุคคลกลุ่มเดียวกันที่สร้าง Terraform Labs

ในชุดทวีตเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม FatMan กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงเรื่องที่ถูกกล่าวหานี้

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ภาษีของเกาหลี พวกเขารายงานว่าได้ปรับ Terraform Labs สำหรับการหลีกเลี่ยงภาษีหลังจากสังเกตเห็นการโอนที่น่าสงสัยไปยัง Kernel Labs

ข้อกล่าวหาอื่น ๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ FatManTerra ทำการตรวจสอบระบบ ecosystem ดังกล่าวอย่างละเอียด

ในปลายเดือนพฤษภาคม FatMan กล่าวหา Do Kwon ซีอีโอของ TFL ว่ามีการฉ้อโกงผ่าน Mirror Protocol (MIR) โดยมีเจตนาเพื่อทำให้เขาได้เปรียบคนอื่น ๆ

ในขณะเดียวกัน การล่มสลายของ Terra ส่งผลให้รัฐบาลเกาหลีใต้แสดงท่าทีที่รุนแรงขึ้นเกี่ยวกับ crypto และจัดตั้ง “คณะกรรมการสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่กฎระเบียบด้านคริปโตที่เข้มงวดมากขึ้น