<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เมื่อนโยบายของรัฐบาลทั่วโลกทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้คนลดลง Crypto จะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Zcash (ZEC) เหรียญ privacy ที่ได้เปิดตัวในปี 2016 ได้เผยแผนการอัพเกรดเป็นระบบในวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินสดทางดิจิทัลผ่านทางโทรศัพท์มือถือโดยมีความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นและไม่ไว้วางใจใครได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมองว่านี่เป็นการพัฒนาที่ดี

ความไม่คุ้นเคย, ความไม่แน่นอนและความสนใจจากสาธารณะกำลังโอบล้อมความเป็นส่วนตัวซึ่งรวมถึงความซับซ้อน, การใช้งานในทางที่ผิดและการเก็งกำไร สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความท้าทายและปัญหาด้านชื่อเสียงสำหรับการสร้างสรรค์โปรเจ็กต์ 

Zcash ได้ถูกพรากในเรื่องของความเป็นส่วนตัวโดยผู้ที่มีอำนาจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ, หน่วยงานกำกับดูแล, ธนาคาร และนักวิชาการ

แต่ถึงอย่างไรก็ดี การแฮ็กข้อมูลและการล้วงข้อมูลบ่อยครั้งแสดงให้เห็นว่าความจำเป็นในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของบุคคลนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน 

นี่จึงเป็นอะไรที่ที่บริษัทคริปโตสามารถเข้าร่วมการสนทนาและสนับสนุนการคุ้มครองผู้บริโภคผ่านการใช้โปรเจ็กต์ที่เน้นในเรื่องความเป็นส่วนตัว

ความรู้สึกของผู้บริโภคและการผิดต่อหน้าที่

ความรู้สึกที่มีต่อความต้องการข้อมูลและความเป็นส่วนตัวทางการเงินได้กลายมาเป็นกระแสหลักเมื่อมีการเปิดเผยที่ไม่ธรรมดาของการถูกละเมิดข้อมูลของ Equifax ในปี 2017 ได้เกิดขึ้น 

ข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนที่สุดของเกือบทุกครัวเรือนในอเมริกานั้นอยู่ในมือของผู้ให้บริการบุคคลที่สามโดยปราศจากความรู้หรือได้รับความยินยอมจากพวกเขา และไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม

ชาวอเมริกันถูกกีดกันจากข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนที่สุดมาเนิ่นนานแล้ว เนื่องจากความประมาทของ Equifax ตอนนี้เราได้รู้แล้วว่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทางการเงินของเราอ่อนแอแค่ไหน สิ่งต่าง ๆ เลวร้ายลงในปีต่อ ๆ ไป ผู้คนเกือบ 294 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการละเมิดข้อมูลในปี 2021 โดยมีข้อมูลมากกว่า 18.5 ล้านรายการที่ถูกเปิดเผย เป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการละเมิดข้อมูลองค์กรตั้งแต่ปี 2017

ผู้กำหนดนโยบายรับรู้ถึงเรื่องราว

เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการสูญเสียการควบคุมข้อมูลทางการเงินได้รับความสนใจจากผู้กำหนดนโยบายซึ่งบางคนกล่าวว่า “ข้อมูลทางการเงินควรได้รับการปฏิบัติด้วยการรักษาความลับเช่นเดียวกับเวชระเบียน” แต่​จริง ๆ แล้ว​อะไร​เกิด​ขึ้น​จาก​สำนวน​นี้? ไม่มีอะไรมาก ตามที่ Cristiano Lima ของ The Washington Post กล่าวไว้ว่า

“แม้ว่าจะมีข้อตกลงสากลที่รัฐสภาต้องทำมากกว่าพูดคุย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการรวบรวมและการใช้ข้อมูลผู้บริโภคแต่การดำเนินการยังคงเป็นอะไรที่เข้าใจยาก”

ทำไมสิ่งนี้จึงสำคัญ? ก็เพราะชาวอเมริกันไม่สามารถพึ่งพาฝ่ายนิติบัญญัติในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของตนได้

ชาวอเมริกันรู้สึกหงุดหงิดกับบริษัทใหญ่ ๆ ในกลุ่ม Tech มากขึ้นและความไว้วางใจในรัฐบาลก็ต่ำลงทุกที มีโอกาสที่จะปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกเหล่านั้นออกมาในขณะเดียวกันก็เน้นการเล่าเรื่อง “ความเป็นส่วนตัวมาก่อน” ที่ให้อำนาจชาวอเมริกันในการแสวงหาการคุ้มครองด้วยตนเอง

โปรเจ็กต์คริปโตที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาในตรงจุดนี้ต้องตอบคำถามให้ได้ 3 ข้อ 

  • เหตุใดผู้คนจึงควรต้องการและมีทุกอย่างตั้งแต่ข้อมูลไปจนถึงข้อความเพื่อเป็นส่วนตัว 
  • สิทธิความเป็นส่วนตัวทางการเงินโดยชอบด้วยกฎหมายของเรามีมากน้อยเพียงใดและด้วยเหตุนี้ชะตากรรมทางการเงินของเราอาจจะเกิดมลทินและอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา
  • ความเป็นส่วนตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการ​