<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ Fidelity Investments กล่าวถึงขาลงตลาด Crypto รอบที่ 3 ว่า “น่าตื่นเต้น”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน นาง Abby Johnson ประธานและ CEO ของบริษัท Fidelity Investments ได้คุยเรื่อง Cryptocurrency กับนาย Matthew Walsh ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งบริษัท Castle Island Ventures ในวันแรกของงาน Consensus 2022 ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 9-12 มิถุนายน 2022 ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส และเธอได้พูดว่า

“ฉันคิดว่านี้เป็น Crypto Winter ครั้งที่ 3 ที่ฉันเจอ และเมื่อนึกถึงตลาดหมีและตลาดหุ้น ฉันได้เห็นการขึ้น ๆ ลง ๆ ของกราฟและฉันมองว่านั้นเป็นโอกาส และฉันถูกสอนมาให้คิดต่างจากคนอื่น ดังนั้นถ้าคุณเชื่อว่าพื้นฐานของมันแข็งแกร่ง เมื่อทุกคนช้อนมัน นั่นคือช่วงเวลาที่มันจะร่วงลงไปอีก และนั่นคือสิ่งที่มันจะเป็น ฉันตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก และรู้สึกแย่ที่เห็นคนขาดทุนไปกับมัน แต่ฉันเชื่อว่ามันยังจะมีอะไรต่าง ๆ อีกมากมายที่จะเกิดขึ้น และฉันตื่นเต้นกับมันจริง ๆ”

ตามรายงานของ CoinDesk เธอยังได้พูดคุยเกี่ยวกับ “การเคลื่อนไหวล่าสุดของบริษัท Fidelity ที่ได้เสนอ Bitcoin ใน clients’ 401 (k) retirement ” และเธอพูดว่า

“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราจะได้รับความสนใจอย่างมากจากการนำ Bitcoin เพียงเล็กน้อยมาสู่ธุรกิจ 401(k) และตอนนี้มีคนจำนวนมากอยากได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้มาถามฉัน ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างและมีความสุขมากกับจำนวนการตอบรับเชิงบวกที่เราได้รับจากเรื่องนี้ การได้เห็นหน่วยงานกำกับดูแลบางส่วนมาพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งนี้ทำให้พวกเราตื่นเต้นมาก เพราะหากพวกเขาไม่ปูทางให้เราก็จะทำงานได้ยากขึ้น”

เมื่อวันที่ 12 เมษายน บริษัท Fidelity Investments ได้ประกาศว่า “การเปิดตัวกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน หรือ Exchange-Traded Funds  (ETFs) ใหม่ 2 กองทุน ได้แก่ Fidelity Crypto Industry and Digital Payments ETF (FDIG), Fidelity Metaverse ETF (FMET) และกองทุนตราสารหนี้ที่ยั่งยืนและ ETF ใหม่ 5 กองทุน ได้แก่ Fidelity Sustainable Core Plus Bond Fund (FIAEX), Fidelity Sustainable Core Plus Bond ETF (FSBD), Fidelity Sustainable Low Duration Bond Fund (FAPGX), Fidelity Sustainable Low Duration Bond ETF (FSLD) และ Fidelity Sustainable Intermediate Municipal Income Fund (FSIKX) ”

ทางบริษัทได้บอกอีกว่า “กองทุนใหม่ทั้งเจ็ดนี้จะเปิดประมาณวันที่ 21 เมษายน 2022 สำหรับนักลงทุนรายย่อยและที่ปรึกษาทางการเงิน และสามารถซื้อโดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นผ่านแพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ของ Fidelity”

นาย Greg Friedman หัวหน้าฝ่ายการจัดการและกลยุทธ์ ETF ของบริษัท Fidelity ได้บอกว่า

“บริษัท Fidelity จะใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่ผ่านมาหลายสิบปี เรามุ่งเน้นที่การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในวงกว้างด้วยกลยุทธ์ที่เป็นนวัตกรรมที่เสนอทางเลือก มูลค่า และโอกาสใหม่ ๆ แก่นักลงทุน เรายังคงเห็นความต้องการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักลงทุนรุ่นเยาว์ในการเข้าถึงอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในระบบนิเวศดิจิทัล โดยกองทุน ETF ทั้งสองนี้ช่วยให้นักลงทุนได้สัมผัสกับเครื่องมือการลงทุนอย่างคล่องแคล่ว”

นาง Pam Holding หัวหน้าร่วมฝ่ายทุนและหัวหน้าฝ่ายการลงทุนอย่างยั่งยืนของบริษัท Fidelity Investments ได้พูดเสริมว่า

“บริษัท Fidelity ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ด้านตราสารทุน ตราสารหนี้ และการจัดสรรสินทรัพย์ ทำให้นักลงทุนยังคงแสวงหาโอกาสในการลงทุนควบคู่ไปกับค่านิยมของพวกเขาและมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในโลก ด้วยการเพิ่มกลยุทธ์ตราสารหนี้ที่ยั่งยืนใหม่เหล่านี้ ตอนนี้ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงหน่วยการสร้างจากสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อช่วยบรรลุเป้าหมายการลงทุนและลำดับความสำคัญของพวกเขา”

เมื่อวันที่ 20 เมษายนนาย Jurrien Timmer ผู้อำนวยการ Global Macro ของบริษัท Fidelity Investments แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดของ Bitcoin และเขาได้พูดบางอย่างให้ Bitcoin HODLers ที่อาจกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับตลาด crypto ที่เป็นขาลงในปัจจุบันสบายใจ

จากนั้นเขาก็ได้ทวีตเพิ่มเติมเพื่ออธิบายสิ่งที่เขาทวีตไปก่อนหน้านี้

“แผนภูมิด้านบนแสดงพื้นฐานของ Bitcoin เส้นอุปทานกำหนดโดยแบบจำลอง S2F และเส้นอุปสงค์ถูกขับเคลื่อนโดย Network growth (กฎของ Metcalfe ) จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ Bitcoin จะเกินมูลค่าที่แท้จริงไปเป็นขาขึ้นระหว่างตลาดกระทิงและไปด้านล่างในช่วงตลาดหมี มันเป็นเกมโมเมนตัมที่มีแนวต้านเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย จนกระทั่งแนวโน้มอ่อนแรงลง”

“ตอนนี้นักลงทุนสถาบันน่าจะสร้างแบบจำลองของตัวเองขึ้นมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเมื่อใดที่ Bitcoin ถูกหรือแพง ตัวอย่างเช่น หากโมเดลอุปสงค์บอกว่ามูลค่าที่แท้จริงของ Bitcoin อยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์ในวันนี้ และเพิ่มเป็น 100,000 ดอลลาร์ในอีกสองปีนับจากนี้ (ตามวิทยานิพนธ์ของฉันที่เคยเขียน) ดังนั้นที่ 30,000 ดอลลาร์ Bitcoin จะดูดีกว่าที่ราคา 70,000 ดอลลาร์มาก นั่นคือความแตกต่างระหว่างกำไร 2 ปีที่ 3x และ 1.5x 

เนื่องจากนักลงทุนเข้าใจมูลค่าของ Bitcoin มากขึ้นเรื่อยๆ อาจมีระยะสะสมที่เพิ่มจนถึงจุดหนึ่ง Bitcoin ก็จะราคาพุ่งหรืออาจะร่วงก็เป็นได้”

“จำไว้ว่าราคาเป็นสิ่งที่คุณต้องช่วง คือสิ่งที่คุณรับรู้คุณค่าของมันในช่วงแรก ๆ แต่เมื่อนักลงทุนเข้าใจมันมากขึ้น ก็มีแนวโน้มที่ราคามันจะเพิ่มสูงขึ้น และมันอาจเริ่มทำตัวเหมือนกับทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เรารู้จัก หากราคาเริ่มเคลื่อนไหวตามเส้นอุปสงค์ที่เอียงขึ้น มันจะทำให้กราฟเป็นแบบที่เราต้องการ”