<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

5 เคล็ดลับการเอาตัวรอดในตลาดหมีปี 2022

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตเลวร้าย ราคาเหรียญคริปโตกลายเป็นสีแดงทั้งกระดาน ซึ่งแน่นอนว่าโดยปกติแล้วช่วงเวลาแห่งตลาดหมีจะมีผลกับนักลงทุนโดยตรง เพราะทันทีที่ราคาร่วงหล่นลงนักลงทุนมักจะรู้สึกกลัว กังวล บางคนอาจจะถึงขั้นนอนไม่หลับและนั่งเฝ้ากราฟทั้งวันทั้งคืน

และสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่พึ่งเข้ามาในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนสูงเป็นครั้งแรก อาจจะมองว่าการที่ราคาตกเช่นนี้ต้องลงเงินเพิ่ม หรือ บางรายอาจจะมองว่านี่คือจุดจบของโลกคริปโตแล้ว แต่ที่แน่นอนก็คือจำนวนเงินมหาศาลจะไหลออกจากตลาดอย่างแน่นอน

อย่างสัปดาห์นี้ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมาต้องยอมรับเลยว่าตลาดคริปโตถึงคราววิกฤต ชุมชนคริปโตหลายคนต่างออกมาบอกว่า ถึงเวลาที่จะต้องช้อนแล้ว ราคากำลังน่ารัก ต้องช้อน หลายคนก็บอกว่า ไม่เอาแล้วตลาดคริปโต

หลายคนออกมาบอกว่าตลาดคริปโตให้ชีวิตใหม่ แต่อีกหลายคนบอกคริปโตทำให้เดือดร้อนอย่างมากมาย ไม่ว่าอย่างไหน ทางสยามบล็อกเชนก็อยากให้ทุกคนที่อยู่ในตลาดคริปโตนั้น รอดพ้นและผ่านวิกฤตตลาดหมีไปด้วยกันให้ได้

ทำไมต้องมีตลาดหมี

ตลาดหมีอย่างที่รู้ว่ามันตรงกันข้ามกับภาวะเงินเฟ้อ หรือเรียกง่าย ๆ แล้วว่า ตลาดหมีจะเกิดขึ้นตามเศรษฐกิจโลก

แต่บางครั้งการที่คริปโตเกิดเหตุการณ์ใหญ่ ๆ อย่างการล่มสลายของเครือข่าย Terra ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง และไหนจะเรื่องแพลตฟอร์มกู้ยืมคริปโตอย่าง Celsius อีก อาจจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนหลายคน

โดยพื้นฐานแล้ว ราคาที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับสูงสุดไม่ได้เป็นตัวบอกว่านี่อยู่ในช่วงตลาดหมีนะ แต่ต้องคำนึงถึงอย่างเช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราอัตราการขึ้นดอกเบี้ย อัตราการจ้างงาน

แต่สำหรับนักลงทุนก็คงจะอยากรู้ว่าเมื่อไรกันที่ตลาดหมีนี้จะสิ้นสุดลง ตามรายงานของ CNBC พบว่า ตลาดหมีมีอายุเฉลี่ยที่ประมาณ 289 วัน ส่วนตลาดกระทิงสอาจมีระยะเวลายาวนานถึง 991 วัน

แต่อย่างไรก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าตลาดหมีจะอยู่นานแค่ไหน แต่เพราะความไม่รู้นี่แหละอาจจะทำให้เราไม่รอดกับตลาดหมีในครั้งนี้ 

วันนี้เราจะมาดูทริคง่าย ๆ ที่ทางสยามบล็อคเชนคาดหวังว่าจะสามารถเป็นแนวทางให้กับเพื่อน ๆ นักลงทุนทุกท่านสามารถรอดพ้นช่วงตลาดหมีไปได้ด้วยดี

สำรวจตลาด และ หาความรู้ใหม่ ๆ

ในฐานะนักลงทุน เราคาดเดาทิศทาง หรือคาดเดาเศรษฐกิจโลกไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเราควรจะอัพเดทตลาดและเช็คข่าวสารในทุก ๆ วันเพื่อคอยดูและโอกาสที่จะเป็นไปได้ที่ข่าวหรือมีเหตุการณ์บางอย่างที่สามารถกระทบกับราคาของเหรียญคริปโต รวมถึงอาจจะใช้เวลาในช่วงตลาดหมีไปเรียนความรู้ใหม่ ๆ อย่างเทคนิคต่าง ๆ หรือการวิเคราะห์ตลาดอะไรก็แล้วแต่

ราคาต้นน้ำ

ทุกครั้งที่จะเทรดคริปโตหลายคนก็อยากจะเข้าราคาสวย ๆ กันนั้น ซึ่งหากเราสามารถวิเคราะห์ราคาได้ เราจะสามารถได้รับประโยชน์และรักษาเงินจำนวนหนึ่งในช่วงที่ตลาดปรับตัวสูงขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว ขณะที่ตลาดหมีอยู่ในโลกแห่งการลงทุน พวกมันก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการช้อนซื้อคริปโตในราคาถูก หรือที่เราเรียกว่าเป็นกลยุทธ์ Dollar-cost averaging (DCA)

Dollar-cost averaging (DCA) อธิบายกลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนซื้อสินทรัพย์จำนวนหนึ่งเป็นดอลลาร์คงที่เป็นประจำ โดยไม่คำนึงถึงราคาของสินทรัพย์นั้นเป็นดอลลาร์ กลยุทธ์นี้มีพื้นฐานอยู่บนความเชื่อที่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป โดยทั่วไปราคาจะขยับขึ้นและมีแนวโน้มสูงขึ้นในที่สุดระหว่างช่วงขาขึ้น

กระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ

ว่ากันว่าการลงไม่ลงทุนที่ใดที่หนึ่งถือเป็นการที่ไม่เสี่ยงที่สุด เพราะเมื่อพอร์ทหนึ่งเสียอีกพอร์ทเราอาจจะรอดก็เป็นได้ ดังวลีที่ว่า “อย่าเก็บไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว”

Staking

การ Staking อาจจะเป็นทางออกอีกทางหนึ่งเพราะในเมื่อถือเหรียญไว้เฉย ๆ และมูลค่าก็น้อยลง สู้เรานำเหรียญไป Staking เพื่อได้รับเหรียญเพิ่ม ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นการทำให้อุ่นใจอีกทางหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเพื่อน ๆ ควรเลือกแพลตฟอร์มการ Staking ที่น่าเชื่อถือเพื่อความปลอดภัยของเหรียญคริปโตเอง

พักผ่อนหย่อนใจ

แน่นอนว่าเมื่อตลาดหมีเกิด ความเครียดก็จะตามมา แต่สิ่งที่เราต้องมีนั้นก็คือความอดทนรอ บางครั้งการที่เราไม่รับรู้อะไรอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด หรือไม่ การที่เราลบแอปพลิเคชั่นทิ้งไปก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว เหมือนกับที่โบราณว่าเอา ‘ฟ้าหลังฝน ย่อมสวยงามเสมอ’

สรุป

สุดท้ายนักลงทุนที่นำเงินเย็นมาลงทุนนั้นก็จะสามารถอดทนรอได้นานกว่า และเมื่อสุดท้ายที่ราคากลับมาก็จะไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น ส่วนการนำเงินร้อนมาลงทุนอาจจะต้องคิดดี ๆ ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี การทำทุกวิธีที่กล่าวมาในข้างต้น อาจจะช่วยบรรเทา นักลงทุนหลายรายก็เลือกที่จะ cut loss แล้วนำมาเข้าในราคาที่สวยกว่า แต่ละคนก็มีเทคนิคการลงทุนไม่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยง ข้อมูลด้านต้นเป็นแค่เพียงทริคที่จะทำให้อยู่รอดในตลาดคริปโตขาลงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เงินเย็นคือ เงินที่ลืมไปแล้วว่าเคยมี เงินร้อนคือ เงินที่จำเป็นต้องใช้แต่เอามาใช้ลงทุนแค่เพียงเพราะต้องการกำไร หรือ เงินที่กู้มาเพื่อเอามาลงทุน