<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผลสำรวจเผย 3 ใน 4 ของร้านค้าปลีกในสหรัฐฯวางแผนที่จะยอมรับการชำระเงินด้วย Crypto ภายใน 2 ปี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การสำรวจใหม่ที่จัดทำโดยบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี Deloitte พบว่าสามในสี่ของร้านค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะยอมรับการชำระเงินด้วย Crypto หรือ Stablecoin ภายในอีกสองปี

ผลการสำรวจพบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของร้านค้าปลีกรายใหญ่ที่มีรายได้มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปกำลังลงทุน 1 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่า เพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น

ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยในรายงาน “Merchants Getting Ready For Crypto” ของ Deloitte ที่เผยแพร่ร่วมกับ PayPal เมื่อวันพุธ

ร้านค้าส่วนใหญ่ประมาณ 85% กล่าวว่า พวกเขาคาดหวังว่าการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลจะเป็นที่แพร่หลายในอุตสาหกรรมของตนภายในอีก 5 ปีนับจากนี้

การสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวได้ทำการสำรวจผู้บริหารระดับสูง 2,000 คนในองค์กรค้าปลีกของสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 3 ธันวาคมถึง 16 ธันวาคม 2021 เมื่อราคา crypto ยังคงเพิ่มสูงขึ้น แต่ผลสำรวจเพิ่งได้รับการเปิดเผย โดยผู้บริหารที่ถูกสำรวจล้วนมาจากหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำกันอาทิเช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอาง สินค้าดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์ แฟชั่น อาหารและเครื่องดื่ม บ้านและสวน การต้อนรับและการพักผ่อน ของใช้ส่วนตัวและของใช้ในครัวเรือน ภาคบริการและการขนส่ง

บริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางก็วางแผนที่จะยอมรับการชำระเงินด้วย crypto เช่นกัน โดย 73% ของร้านค้าปลีกที่มีรายได้ระหว่าง 10 ล้านดอลลาร์ถึง 100 ล้านดอลลาร์ลงทุนเงินระหว่าง 100,000 ถึง 1 ล้านดอลลาร์เพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น

จากข้อมูลของ Deloitte การลงทุนยังไม่หยุดเพียงแค่นั้นและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2022 ร้านค้าปลีกจำนวนมากกว่า 60% กล่าวว่า พวกเขาจะเพิ่มงบประมาณมากถึง 500,000 ดอลลาร์เพื่อเปิดรองรับการชำระเงินด้วย Crypto ในอีก 12 เดือนข้างหน้าจนถึงเดือนธันวาคม

ความสนใจของผู้บริโภคกำลังผลักดันการยอมรับของร้านค้าปลีก โดย 64% ของผู้ตอบแบบสำนวจสัญญาณว่าลูกค้าของพวกเขาได้แสดงความสนใจอย่างมากสำหรับการใช้ crypto เพื่อการชำระเงิน และร้านค้าปลีกประมาณ 83% คาดหวังว่าความสนใจนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2022

เกือบครึ่งคาดว่า การยอมรับคริปโตเป็นวิธีการชำระเงินนั้นจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ในทำนองเดียวกันเชื่อว่าจะเพิ่มช่วยฐานลูกค้า และ 40% หวังว่าแบรนด์ของพวกเขาจะถูกมองว่าเป็น “มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า”

ที่มา : cointelegraph