เมื่อขึ้นชื่อว่าการลงทุน ไม่ใช่ว่าเมื่อกำไร ก็ย่อมมีการขาดทุนที่เป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน Crypto, หุ้น หรืออสังหาฯ ซึ่งเรามักพบเจอเคสการขาดทุนจากการลงทุนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนไม่กี่ร้อยบาท ไปจนถึงการขาดทุนหลักล้านบาท
เช่นเดียวกับสมาชิก Pantip ท่ายนี้ที่แบ่งปันประสบการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นของตัวเองเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคน โดยเจ้าตัวเผยว่าจากเงินทุนเริ่มต้นอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท ตอนนี้เขาหมดตัวเหลือเงินทุนเพียงแสนกว่าบาทเท่านั้น
เริ่มแรกมานั้นเขาเล่าว่า เขาได้เข้าลงทุนในหุ้นพื้นฐาน แม้จะไม่ได้กำไร แต่ก็ไม่ได้ขาดทุนมาก จนเขาเริ่มเข้าลงทุนในหุ้นปั่นและสุดท้ายเหลือเงินทุนอยู่เพียง 1 แสนกว่าภายในเวลา 1 ปี
นักลงทุนจำนวนมากก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้นหรือ Crypto ด้วยความคาดหวังว่าที่จะสามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ เช่นเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น แต่ไม่ได้คำนึงว่า ราคาหุ้นและ Crypto นั้นมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตลาด Crypto ที่มีความผันผวนสูง และไม่มีเวลาเปิดหรือปิดตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม
ราคาหุ้นและ Crypto ยังมีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ส่วนมากเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ไม่สามารถคาดการณ์ได้หรือคาดไม่ถึง เช่น การล่มสลายของ Terra Labs หรือ FTX ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันไม่ทันได้ตั้งตัว ทำราคาเหรียญ Crypto ร่วงลงอย่างรุนแรง ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายในตลาดขาดทุนย่อยยับภายในเวลาชั่วข้ามคืน
Crypto บางโปรเจกต์ยังสามารถเกิดการ Rug pull หรือเป็น Scam ได้ ทำให้ตลาด Crypto มีความอันตรายยิ่งกว่ามาก
จากนี้นักลงทุนในหุ้นและ Crypto จึงควรศึกษาหุ้นหรือโทเค็นที่ต้องการลงทุนอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนทำการลงทุน และไม่ควรทุ่มเงินจำนวนมากลงไปในคราวเดียว
อย่างที่ Changpeng “CZ” Zhao กล่าวเตือนเมื่อก่อนหน้านี้บน Twitter ส่วนตัวเมื่อตลาด Crypto เริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้นว่า เหล่านักลงทุนควรศึกษาสิ่งที่จะทำการลงทุนให้ดี เอาชนะความกลัวในการตกรถ เมื่อราคาหุ้นหรือ Crypto ตัวใดตัวหนึ่งกำลังเป็นกระแส และไม่กระโดดเข้าไปลงทุนสุ่มสี่สุ่มห้าในหุ้นหรือ Crypto ตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวเดียว
ที่สำคัญ นักลงทุนจำเป็นต้องเอาชนะความโลภในตัวและมีสติอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้น อาจตกเป็นเหยื่อของเจ้ามือที่ต้องการปั่นราคา หรือนักต้มตุ๋นที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในตลาดได้
เนื่องจากการพลาดพลั้งเพียงน้อยนิด อาจทำให้เงินทุนที่มีในมือสูญหายไปทั้งหมด เช่นเดียวกับเคสของนักลงทุน Pantip ท่านนี้
ที่มา: Pantip