<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Binance คืออะไร ? ทำไมถึงเป็นเว็บเทรดเบอร์หนึ่งที่ครองใจนักเทรด Crypto

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถ้าหากใครเพิ่งรู้จักคริปโต หรือเป็นนักเทรดมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ก็อาจจะได้ยินได้เห็นชื่อกระดานเทรด Binance หรือชื่อของผู้ก่อตั้งอย่าง Changpeng Zhao (CZ) อยู่บ่อย ๆ แต่เคยสงสัยกันบ้างไหมว่ากระดานเทรดแห่งนี้มีจุดเด่นอย่างไร? ให้บริการในด้านไหนบ้าง? และทำไมถึงกลายเป็นกระดานเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของโลก?

ถ้าหากใครเริ่มสนใจทำความรู้จักกับ Binance ในด้านต่าง ๆ ขึ้นมาแล้ว ก็มาร่วมเจาะลึกไปพร้อมกับทางสยามบล็อกเชนกันได้เลย

ประวัติกระดานเทรด Binance

Binance Exchange เป็นกระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017  โดยมีผู้ก่อตั้งคือ Changpeng Zhao (CZ) หนึ่งในผู้ประกอบการ นักลงทุน และวิศวกรซอฟต์แวร์ชื่อดังระดับโลก ทั้งนี้ CZ ได้เริ่มก่อตั้ง Binance ขึ้นในเดือนกรกฎาคม และภายในเวลาเพียงแค่ 6 เดือนหลังจากนั้น Binance ก็ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในเว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนและปริมาณการซื้อขายต่อวันมากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์

Binance คืออะไร?

Binance เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายคริปโตแบบ Crypto-to-Crypto (การซื้อขายระหว่างสองสกุลเงินดิจิทัล) และการซื้อขายแบบ Peer-to-Peer (P2P) โดย Binance มีฟีเจอร์การเทรดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น spot trading, margin trading, futures trading, staking, lending เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรและเครื่องมือทางการศึกษาสำหรับนักเทรดทุกระดับตั้งแต่มือใหม่ยันมือเก๋าอีกด้วย

จุดเด่นหลัก ๆ ชอง Binance คือการเป็นเว็บเทรดที่มีสภาพคล่องสูง, interface ใช้งานง่าย, มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง มีฟีเจอร์การเทรดหลากหลาย รวมทั้งยังมีการให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ที่ชำระเงินเป็นเหรียญ BNB (เหรียญของ Binance)

แนะนำฟีเจอร์การเทรดบน Binance

Spot trading: เป็นฟีเจอร์การเทรดขั้นพื้นฐานที่สุดบน Binance โดยผู้ใช้สามารถซื้อและขายเหรียญคริปโตในราคาตลาดปัจจุบันได้ผ่านทางฟีเจอร์นี้

Margin trading: เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถยืมเงินจาก Binance เพื่อเทรดต่อไปได้

Futures trading: เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเทรดคริปโตด้วยราคาในอนาคต ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนด้วยการเก็งกำไร

Staking: เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับดอกเบี้ยจากการถือเหรียญคริปโตของตนเองไว้ใน Staking pool

Lending: เป็นฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถปล่อยกู้ให้คนอื่นยืมเหรียญคริปโตของเราได้ และรับดอกเบี้ยจากคนที่มาขอกู้ยืมเงินคริปโตของเรา

Tools for traders: แพลตฟอร์ม Binance มีเครื่องมือตัวช่วยในการเทรดที่หลากหลาย เช่น หนังสือสั่งซื้อ (order books) เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (technical analysis tools) ฯลฯ

ที่กล่าวไปในข้างต้นนี้เป็นเพียงตัวอย่างคร่าว ๆ ของฟีเจอร์การเทรดบน Binance เท่านั้น แพลตฟอร์มแห่งนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น P2P, Swap Farming Trading Bots ฯลฯ

Order ของ Binance

Binance จะมีคำสั่ง Order books ที่ใช้ในการเทรดทั้งหมด 7 ประเภท ประกอบด้วย :

  1. Limit Order
  2. Market Order
  3. Stop-Limit Order
  4. Stop Market order
  5. Trailing Stop Order
  6. Post Only Order
  7. Limit TP/SL Order (Strategy Order)

ทั้งนี้การเทรดและการถอนเงินคริปโตบน Binance จะมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่แตกต่างกันไปตามสกุลเงินดิจิทัลและจำนวนเงินที่ทำธุรกรรม

บริการอื่น ๆ ของ Binance 

Earning

Earning เป็นบริการสำหรับการ Staking หรือรับดอกเบี้ยโดยการฝาก Stablecoin กับทางเว็บเทรด โดยบริการ Earning บน Binance นั้นจะมีอยู่หลายอย่าง เช่น Binance Earn, Simple Earn, Binance pool, Liquidity Farming ฯลฯ

Binance Card และ Binance Loans

Binance Card เป็นบัตรเครดิต Visa ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลงคริปโตเป็นเงิน Fiat รวมทั้งยังสามารถใช้จ่ายค่าผลิตภัณฑ์และบริการได้อีกด้วย ทั้งนี้แม้ว่าการแปลงจะไม่มีค่าธรรมเนียม แต่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบุคคลที่สาม เช่น ค่าธรรมเนียมเครือข่ายการชำระเงิน

Binance Loans เป็นบริการที่อนุญาตให้ผู้ใช้ยืมสินทรัพย์เพื่อใช้ในการเทรด spot, future, และ margin trading โดยมีเงื่อนไขกำหนดเวลากู้ยืมคือ 7, 14, 30, 90 และ 180 วัน พร้อมดอกเบี้ยที่คำนวณตามจำนวนชั่วโมงที่ผู้ใช้ยืมสินทรัพย์

Binance Coin (BNB)

Binance Coin (BNB) เป็นเหรียญ native token ของ BNB Chain ที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายคริปโตบนแพลตฟอร์ม Binance

Binance Coin เริ่มทำงานบน Ethereum blockchain ด้วยมาตรฐาน ERC 20 อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 Binance Coin กลายเป็นเหรียญประจำเครือข่าย BNB Chain เหรียญ BNB เปิดตัวมาด้วยการเปิดขายเหรียแบบระดมทุน ICO เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 โดย Binance เสนอขายเหรียญ BNB จำนวน 20 ล้านเหรียญให้กับนักลงทุนรายย่อย และ 80 ล้านเหรียญสำหรับทีมผู้ก่อตั้ง ส่วนอีก 100 ล้านเหรียญที่เหลือจะเป็นส่วนสำหรับผู้เข้าร่วมผ่านกระบวนการ ICO

เกือบครึ่งหนึ่งของเงินทุนที่ระดมได้ในระหว่างกระบวนการ ICO มีไว้สำหรับการสร้างแบรนด์และการตลาดของ Binance ในขณะที่ประมาณหนึ่งในสามถูกใช้เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม Binance และทำการอัปเกรดที่จำเป็นสำหรับระบบนิเวศของ Binance

โดยรวมแล้ว Binance Exchange คือ กระดานเทรดคริปโตที่สามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้มากกว่า 350 รายการทั่วโลก โดยนอกจากการเทรดคริปโตแล้ว Binance ยังมีบริการอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยยกระดับประสบการณ์สำหรับผู้ใช้และนักพัฒนาบล็อกเชน 

ที่มา: investopedia