Bitcoin Halving คือการลดผลตอบแทนต่อ block ที่นักขุดจะได้รับหลังจากการขุด โดย Bitcoin ที่นักขุดจะได้นั้นจะหายไปครึ่งหนึ่ง โดยเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี และส่งผลต่อนักขุดเป็นอย่างมาก
นาง Rena Shah หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ของ Trust Machines ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุดบน Bitcoin ได้ให้ความเห็นว่า
หลังจากที่เกิดการ Halving แล้วนักขุดจำเป็นต้องหาทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการขุดให้มากยิ่งขึ้น และได้เสนอแนวทางในการที่จะหาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยในตอนนี้ Bitcoin ไม่ได้ถูกสร้างอยู่ในแนวคิดที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESG)
แต่อุตสาหกรรมการขุด Bitcoin นั้นดูเหมือนจะรู้ตัวเองอยู่แก่ใจว่าได้ใช้พลังงานมากแค่ไหน และพยายามหาทางที่จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมและภูมิภาคนอกเหนือจาก Bitcoin
ทางออกที่จะมีแนวโน้มมากที่สุดอยู่สองแนวทางคือการใช้ ก๊าซแฟลร์และพลังงานนิวเคลียร์
ก๊าซแฟลร์ คือก๊าซที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการสกัดน้ำมัน โดยมันจะถูกจุดไฟหรือเผาไหม้สู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสูญเสียทรัพยากรพลังงานไปอย่างเปล่าประโยชน์
โดยอุตสาหกรรมการขุด bitcoin ได้รับรู้ถึงก๊าซแฟลร์ และโอกาสที่จะใช้มันเพื่อเป็นพลังงานการขุด
แทนที่จะปล่อยก๊าซสู่ชั้นบรรยากาศ นักขุด Bitcoin ได้แปลงก๊าซให้กลายเป็นเป็นไฟฟ้า เพื่อที่จะได้พลังงานมาใช้ในการขุด bitcoin และสามารถลด carbon footprint ได้
และการใช้พลังงานนิวเคลียร์ เพราะสามารถสร้างพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง และไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงเลย แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามปัจจัยเรื่องกฎหมายได้ เพราะในตอนนี้เป็นไปได้ยากที่เราจะได้เห็นการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการขุด Bitcoin โดยเฉพาะ
ที่มา: CoinDesk