Joe Rogan นักวิจารณ์และพิธีกรรายการพอดแคสต์ชื่อดังพูดถึงสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ว่าเงินดอลลาร์ดิจิทัลนี้จะเป็นตัวที่จะทำให้อิสระภาพทางการเงินของชาวอเมริกันมาถึงจุดจบ เนื่องจากการใช้อำนาจในทางที่ผิดของรัฐโดยมี CBDC เป็นเครื่องมือ
Rogan แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า CBDC จะมาสิ่งที่เข้ามาทำให้วงการเงินดิจิทัลถึงจุดจบ โดยให้เรานึกถึงภาพของสังคมรัฐเผด็จการที่มีความสามารถในการผูก CBDC เข้ากับคะแนน social credit เพื่อติดตามพฤติกรรมของประชาชนในโลกออนไลน์อย่างบนทวิตเตอร์ โดยอ้างว่าระบบจะกำหนดให้ประชาชนที่ฝ่าฝืนกฎจะถูกตัดสิทธิ์จากการควบคุมดูแลการเงินของตนเอง
Malone ก็แสดงความกังวลต่อระบบธนาคารในสหรัฐฯ เนื่องจากเขาสังเกตเห็นว่าการประกันของ FDIC จะครอบคลุมเฉพาะบัญชีธนาคารที่มียอดเงิน 250,000 ดอลลาร์ขึ้นไปเท่านั้น นอกจากนี้เขายังเห็นด้วยกับความคิดที่ว่า เงินดอลลาร์ดิจิทัลจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ทางเศรษฐกิจต่อสังคมชาวอเมริกัน
ยิ่งไปกว่านั้นทั้งคู่ยังได้ยกตัวอย่างกรณีที่ รัฐบาลแคนาดาสั่งอายัดบัญชีธนาคารของกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการประท้วง “Freedom Convoy” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
Malone กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯมีอำนาจมากเกินไปในการควบคุมกระแสเงินหมุนเวียนในชีวิตประจำวันของประชาชน และอาจสั่งระงับเงินทุนของใครก็ได้ในทันที
เรื่องนี้สะท้อนถึงความรู้สึกที่คล้ายกันของผู้สนับสนุนคริปโต ซึ่งเป็นแนวคิดแบบกระจายอำนาจ
ในขณะเดียวกัน การอภิปรายถกเถียงเกี่ยวกับ CBDC ก็ได้กลายเป็นประเด็นในแวดวงการเมืองของสหรัฐฯ โดยในเดือนกรกฎาคม Ron DeSantis ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค Republican และผู้ว่าการรัฐฟลอริดาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าขัดขวางการเปิดตัว CBDCs ในสหรัฐฯ หากตนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
ในอีกด้านหนึ่ง Robert F. Kennedy Jr .ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต วิจารณ์ CBDC ของสหรัฐฯ ว่าเป็นเครื่องมือในการ “ควบคุม” ผู้คน และสัญญาว่า ถ้าเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เขาจะวางหลักประกันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยสินทรัพย์ที่ปลอดภัยซึ่งรวมถึง Bitcoin ด้วย
ที่มา: Cointelegraph